รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!

QRCODE

ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที

เริ่มประเมินวงเงิน

หรือ

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลย

ALL-NEW MITSUBISHI TRITON เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก พร้อมจำหน่ายทันที 8 รุ่นย่อย กับ 184 แรงม้า ส่วนตัวแรง 150, 204 แรงม้า มาแน่ปีหน้า

สิ้นสุดการรอคอยกันเสียทีหลังจาก ในวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ทำการเปิดตัว All-New Triton หรืออีกชื่อที่ตลาดต่างประเทศเรียกกันว่า L200 โดยเป็นรถกระบะในพิกัดขนาด 1 ตัน ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ ได้ผลิตรถกระบะมาแล้วกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจเนอเรชั่น เพื่อจำหน่ายใน 150 ประเทศทั่วโลก จึงทำให้ Triton เป็นรถรุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ ซึ่ง All-New Triton นับเป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกแบบใหม่ทั้งคัน เรียกได้ว่าปฏิวัติทุกอณู! พลิกโฉมทุกมิติ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ทั้งยังพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่, แชสซีส์ใหม่, ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) โดยจะเริ่มจำหน่ายในไทยเป็นที่แรกในโลก ก่อนจะเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน และโอเชียเนีย และยังมีการกำหนดวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ในช่วงต้นปี 2567 ที่จะถึงนี้ด้วย

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-1

All-New Triton ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยภายนอกมากับแนวคิด บีสท์ โหมด (Beast Mode) โดยด้านหน้าตัวเป็นการออกแบบรถอันเป็นเอกลักษณ์  Dynamic Shield ยกระดับด้วยกระจังหน้าและซุ้มล้อแบบสามมิติที่ดุดัน

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-2
ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-3

ด้านกันชนก็ถูกออกแบบเพื่อเน้นย้ำรูปทรงสะท้อนถึงพลัง ส่วนไฟส่องสว่างเวลากลางวันเป็นแบบ LED ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวดุจสายตาเหยี่ยว ผสานกับไฟหน้าแบบสามมิติ ขณะที่กระบะท้ายได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกการใช้งานเสริมด้วยไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง ทั้งหมดนี้ทำให้ All-New Triton เป็นกระบะที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวพร้อมสะกดทุกสายตา และด้วยความใส่ใจในทุกองค์ประกอบ

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-4
ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-5

ด้วยรูปทรงห้องโดยสารและสปอยเลอร์ท้ายที่เพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์, บันไดข้างที่กว้างขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-6

นอกจากนี้ยังมีการปรับมาใช้ เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหม่ โดยจะเป็นโครงสร้างแบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึง 65% (เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง ทำให้ยังคงมีความแข็งแรงสมบุกสมบันพร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-7

ทั้งยังยกระดับสมรรถนะการขับขี่ด้วยช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้า ซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มม. เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-8
ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-9
ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-10

โดยในตอนนี้จะมีจำหน่ายเฉพาะรุ่น Double Cab และ Single Cab ก่อน สำหรับกระบะตอนท้าย ได้รับการออกแบบให้ระยะความสูงของกระบะจากพื้น ต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มม. (อยู่ที่ 820 มม.) พร้อมขยายพื้นที่ด้านบนของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น และเสริมความแข็งแรงด้วยเฟรมเพื่อให้วางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-11
ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-12

ส่วนการออกแบบภายในของ All-New Triton ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสาร หรือแผงควบคุมก็เกิดจากแนวคิด Horizontal Axis ที่การใช้งานในทุกรายละเอียด ทำให้ห้องโดยสารมีการออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังให้จอแสดงผลที่มองเห็นได้ชัดเจน

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-13

โดยชุดมาตรวัดและสวิตช์ควบคุมต่าง ๆ ได้รับการออกแบบให้มองเห็นได้ชัด และควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนา ทั้งพวงมาลัย, ก้านจับ และมือจับเปิดประตู ล้วนได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Mitsubishi Touch บริเวณแผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้ว ขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติก ขนาด 600 มิลลิลิตร ได้มากถึง 4 ขวด และเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพ ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้า, ช่องวางสมาร์ทโฟน และช่องเก็บของขนาดเล็กอื่น ๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ และยังมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-14

ส่วนเครื่องยนต์ของ All-New Triton จะเป็นเครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ ใหม่! ที่ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ มอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสมรรถนะ และจะมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย (ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 150 แรงม้า และ 204 แรงม้า จะตามออกมาในภายหลัง)

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-15

ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์ของ All-New Triton ก็มาทั้งระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น Double-Cab และระบบ Easy Select 4WD สำหรับ Single Cab ที่มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วน 40% ที่ล้อหน้าและ 60% ที่ล้อหลัง โดยระบบ Super Select 4WD-II มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด (Normal, Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะกับสถานการณ์และสภาพถนนทุกรูปแบบ ส่วนระบบ Easy Select 4WD สามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H, 4H และ 4L ตอบโจทย์การใช้งานในเส้นทางที่หลากหลาย

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-6

เทคโนโลยีที่อัดแน่นอยู่ใน All-New Triton ก็จะมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ที่ได้รับการติดตั้งพร้อมกับระบบ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านใน และนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) ที่ยกระดับความปลอดภัยการขับขี่อย่างเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ป้องกันรถถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM), ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA) และ ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) ตลอดจนระบบอื่น ๆ (ระบบต่าง ๆ แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย)

ALL-NEW-MITSUBISHI-TRITON-17

สำหรับราคาจำหน่าย All-New Triton ในตอนนี้ก็จะมี 2 รุ่น Single Cab และ Double Cab ที่มีกำลัง 184 แรงม้า

  • Single Cab 2.4 Pro 4WD ราคา 699,000 บาท
  • Single Cab 2.4 Pro 4WD AT ราคา 699,000 บาท
  • Double Cab Plus 2.4 Pro ราคา 820,000 บาท
  • Double Cab Plus 2.4 Prime ราคา 839,000 บาท
  • Double Cab Plus 2.4 Prime AT ราคา 938,000 บาท
  • Double Cab Plus 2.4 Ultra ราคา 982,000 บาท
  • Double Cab Plus 2.4 Ultra AT ราคา 1,027,000 บาท
  • Double Cab 2.4 Prime 4WD ราคา 1,016,000 บาท

 

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ All-New Mitsubishi Triton สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<


บทความแนะนำ

swiper-arrow-prev
swiper-arrow-next
ขอสินเชื่อ จัดเลย!
กลับสู่ด้านบน