Toyota ส่ง Corolla Altis รุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมอัปสเปค เพิ่มออปชั่นในทุกรุ่นย่อยแต่ปรับราคาเพิ่มขึ้นนิดเดียว

สำหรับรุ่น HEV GR SPORT เป็นรุ่นที่เสริมความสปอร์ตเร้าใจในสไตล์ GR Sport ด้วยสมรรถนะ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถในตระกูล GR ของ Toyota โดยการดีไซน์ภายนอกดูโดดเด่นยิ่งกว่า ด้วยเอกลักษณ์สไตล์สปอร์ตด้วย กันชนหน้าและกระจังหน้า GR Sport พร้อมกระจกมองข้างสีดำ และสเกิร์ตข้างและหลัง GR Sport พร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว ลาย GR Sport

ส่วนภายในของรุ่นนี้จะเป็นเบาะนั่งคู่หน้าจะเป็นเบาะหนังสีดำ-แดงดีไซน์สปอร์ตพร้อมโลโก้ GR ที่มีระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า, ปุ่ม Push Start ที่มีสัญลักษณ์ GR

ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยเทคโนโลยี nanoe™X, Wireless Charger หรือ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย และ Head Up Display ที่จะแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ และระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ

โดยในรุ่นปี 2023 นี่จะมีการปรับเพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone A/C ซึ่งสามารถปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา, หน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่แบบสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับแต่งได้  4 สไตล์ Casual – Smart – Tough - Sporty และEPS Tuning ก็คือการปรับจูนพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ตอบสนองดั่งใจ ให้สมกับเป็นรถที่ “ปรับจูนใหม่ ขับสนุก เร้าใจ แม่นยำยิ่งขึ้น”

ส่วนรุ่น HEV PREMIUM ก็จะเป็นรุ่นที่ปรับการตกแต่งภายนอก ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ดีไซน์ Polygon และเพิ่มไฟตัดหมอกหน้า พร้อมคิ้วโครเมียม และล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่

โดยในรุ่น HEV GR SPORT กับ HEV PREMIUM นั้นเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด ด้วยระบบ TOYOTA SAFETY SENSE ถือว่ารุ่นนี้เป็นรถ Corolla Altis ที่ “คุ้มค่าสูงสุด ด้วยสเปคที่อัดแน่น”

นอกจากนี้ยังมีรุ่น 1.8 Sport ที่ได้ปรับปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมเติมสิ่งอำนวยความสะดวกก็คือ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ รูปแบบ Polygon, ไฟตัดหมอกหน้า พร้อมคิ้วโครเมียม, ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และ ระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE นอกจากนี้ในรุ่นนี้ยังมี ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA กับ LED Headlamp ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตรจัดเป็นรถที่ “ดีไซน์ใหม่ ขับสนุก เร้าใจ ปลอดภัยยิ่งขึ้น”

ปิดท้ายกันที่รุ่น 1.6 G ที่มีเครื่องยนต์เล็กกว่าเพื่อความประหยัด โดยในรุ่นนี้ได้จอมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังเพิ่ม, เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ

และล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ โดยยังคงมีเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลังมาให้เหมือนเช่นเคย จึงเหมากับคำว่า “คุ้มค่าสูงสุด กับรุ่นเริ่มต้น เติมสเปคน่าใช้ยิ่งขึ้น”

Toyota Corolla Altis ทั้ง 4 รุ่นย่อย มากับสีให้เลือกถึง 5 สี คือสีแดง Red Mica Metallic, สีดำ Attitude Black Mica, สีขาวมุก Platinum White Pearl, สีเทา Celestite Gray Metallic และสีใหม่ สีเทา Metal Stream Metallic โดยราคาจะอยู่ที่

• รุ่น HEV GR SPORT ราคา 1,129,000 บาท
• รุ่น HEV PREMIUM ราคา 1,009,000 บาท
• รุ่น 1.8 Sport ราคา 979,000 บาท
• รุ่น 1.6 G ราคา 894,000 บาท

โดยทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีข้อเสนอพิเศษ ดังนี้

• รุ่น HEV และ 1.8 ดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 0.95% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care PHYD และขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด พร้อมฟรีค่าแรงจนถึง 100,000 กม.
• รุ่น 1.6 G ดอกเบี้ยพิเศษ 1.45% หรือผ่อนเริ่มต้น 9,021 บาท ต่อเดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care PHYD และขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด พร้อมฟรีค่าแรงจนถึง 100,000 กม.

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ Toyota Corolla Altis สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<