รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยสำหรับใครที่ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ต้องการความประหยัด ก็ยังมีกลุ่มพลังงานทางเลือกหรือกลุ่มรถไฮบริด ที่จะมีระบบไฟฟ้าเข้ามาทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ มีหลายตัวเลือกจากแบรนด์ต่าง ๆ พร้อมเป็นทางเลือก วันนี้เราเลยรวมรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์, สมรรถนะ และราคา ไปดูกันว่ารุ่นไหนจะตอบโจทย์ได้โดนใจที่สุด
NISSAN
รุ่น : KICKS e-POWER
ราคา : 759,000-949,000
สำหรับ NISSAN KICKS e-POWER นั้นเป็นรถคอมแพ็คเอสยูวี ที่มากับเทคโนโลยี e-POWER ที่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ในการผลิตไฟฟ้าเข้าไปเก็บที่แบตเตอรี่ แล้วเอากระแสไฟฟ้านั้นมาขับเคลื่อน ทำให้มีพละกำลังและอัตราเร่งที่ตอบสนองในทันทีเปรียบเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่สะดวกกว่าตรงที่ไม่ต้องรอชาร์จไฟ เพราะสามารถเติมน้ำมันได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป โดยจะมีระบบ One-Pedal ซึ่งเป็นระบบคันเร่งที่สามารถเร่งและชะลอความเร็วได้ทันที ด้านไซน์โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ V-motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED รูปทรงบูมเมอแรง กับการออกแบบแนวเส้นหลังคาแบบลอยตัว และยังมี Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคตที่นิสสันพัฒนาขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้ผู้ขับขี่ ไม่ใช่แค่เพียงจินตนาการ แต่เราพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น
HONDA
รุ่น : ACCORD e:HEV
ราคา : 1,639,000-1,799,000 บาท
รถ Accord เป็นยนตรกรรมที่สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม ที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนระดับพรีเมียมกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ให้พลัง 190 แรงม้า ให้อัตราเร่งแรงดั่งใจ พร้อมอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
รุ่น : CITY e:HEV
ราคา : 829,000 บาท และ Hcthback RS 849,000 บาท
รถ CITY จะมี 2 แบบ ที่เป็น 4 ประตูซีดาน กับแบบ 5 ประตู Hacthback ที่มากับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรองรับน้ำมันถึง E20
รุ่น : CIVIC e:HEV
ราคา : 1,129,000-1,259,000 บาท
สำหรับแบรนด์ Honda ก็จะมีให้เลือกกันหลายรุ่น โดยเราจะมาเริ่มกันที่ Civic กันก่อน โดยในรุ่นนี้จะเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานไอคอน ที่มากับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่จะมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ซึ่งผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ส่วนภายในห้องโดยสารก็กว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย โดยมีรุ่น e:HEV EL+ และe:HEV RS ให้เลือกตามความพอใจ
รุ่น : HR-V e:HEV
ราคา : 979,000-1,179,000 บาท
สำหรับ HR-V รุ่นล่าสุดนี้เป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้าให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่มีในทุกรุ่นย่อย พร้อมฟังก์ชันล้ำสมัยระดับพรีเมียม
MG
รุ่น : VS HEV
ราคา : 859,000-919,000 บาท
MG VS HEV เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร กับระบบไฮบริด ช่วยให้ความประหยัด มาพร้อมดีไซน์สวยสะดุดตา ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC และ ฟังก์ชันภายในล้ำอนาคต และอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน โดยจะมาพร้อม 2 ตัวเลือก ได้แก่ VS HEV D และ VS HEV X
TOYOTA
รุ่น : C-HR
ราคา : 1,149,000-1,199,000 บาท
โดยรถรุ่นนี้เป็นรถต้นแบบที่ปฏิวัติการออกแบบของทาง Toyota และเป็นตัวแทนของความโดดเด่น ทั้งการขับขี่ เทคโนโลยี และสไตล์ที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยการออกแบบให้มีเหลี่ยมคม สมบูรณ์แบบทุกมิติ ด้านเทคโนโลยีที่ไม่ใช่แค่ครบ แต่ดีที่สุดในทุกด้าน ด้านขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock ให้ความโดดเด่นในเรื่องความประหยัดทนทาน ทั้งยังมีรุ่น GR Sport ที่มาพร้อมชุดแต่งเต็มคันจาก DNA สายพันธุ์ GR Sport ด้วยชุดแต่งแท้จากโรงงาน
รุ่น : COROLLA ALTIS
ราคา : 994,000-1,114,000 บาท
สำหรับ Corolla Altis นี้ก็จะมี ให้เลือกทั้ง Hybrid Premium ซึ่งเป็นรุ่นท็อปมากับราคา 994,000 บาท กับ HEV GR Sport ราคา 1,114,000 บาท โดดเด่นดีไซน์ภายนอก และภายในกว้างขวาง เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน ด้านสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นเกินใคร จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ผสานด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ารุ่นล่าสุด (Toyota Safety Sense) และยิ่งไปกว่านั้นถือเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอัตราการเร่งที่ดีขึ้น และสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุด โดยจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้ความโดดเด่นในเรื่องความประหยัดทนทาน ทั้งยังมีรุ่น GR Sport ที่มาพร้อมชุดแต่งเต็มคันจาก DNA สายพันธุ์ GR Sport ด้วยชุดแต่งแท้จากโรงงาน
รุ่น : COROLLA CROSS HEV
ราคา : 1,024,000-1,269,000 บาท
สำหรับ Toyota Corolla Cross นั้นจะมีรุ่น HEV Smart, HEV Premium และ HEV Premium Safety ที่จะพาคุณสัมผัสกับ SUV ที่เหนือความคาดหมายในทุกด้าน ด้วยสไตล์ที่โดดเด่น และสมรรถนะอันเร้าใจ พร้อมความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่าใคร และพิเศษกว่าใครกับรุ่น HEV GR Sport ที่มาพร้อมชุดแต่งเต็มคันจาก DNA สายพันธุ์ GR Sport ด้วยชุดแต่งแท้จากโรงงาน ทั้งยังปรับปรุงระบบช่วงล่างใหม่ให้เพิ่มความสปอร์ตเต็มขั้น ด้านขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock ให้ความโดดเด่นในเรื่องความประหยัดทนทาน โดยระบบไฮบริดดังกล่าวเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แล้วของโตโยต้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร
MITSUBISHI
รุ่น : OUTLANDER PHEV
ราคา : 1,640,000-1,749,000 บาท
เป็นรถยนต์ SUV plug-in hybrid ที่ผสานทุกความเป็นที่สุดของมิตซูบิชิ เพื่อเปิดตำนานบทใหม่ให้โลกแห่งยนตรกรรม และมีเทคโนโลยีการควบคุมการขับขี่ระดับตำนาน นั่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้านขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 305 แรงม้า ช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นไปพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการใช้พลังงาน ผลที่ได้คือประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือชั้น เร่งพลังได้ดั่งใจ ไร้เสียงรบกวน นุ่ม เงียบ แรง ทรงพลังในทุกจังหวะการขับขี่ ให้คุณขับขี่อย่างเงียบสนิทและประหยัดกว่า ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยระบบสลับการทำงานแบบไร้รอยต่อ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด
สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริด ก็สามารถติดต่อขอสินเชื่อรถเหล่านี้ได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ให้บริการโดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400 และติดตามโปรโมชั่นรุ่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม รายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว