MG เปิดตัว New ES (EP Minorchange) รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สเตชั่นแวกอน พร้อมเปิดรับจองแล้ววันนี้ ก่อนเปิดราคาใน มอเตอร์โชว์ 2023

New ES เน้นใช้การออกแบบที่ให้ความพรีเมียมช่วยส่งให้ดูดีมีระดับ โดยจะมากับมาพร้อมกับ New ERA Design ที่ออกแบบตัวรถใหม่ ให้เป็นรถสเตชั่นแวกอนไฟฟ้า 100% ที่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ โดยจะมากับตัวถังขนาด ยาว 4,600 มม. (มากกว่า EP 56 มม.) กว้าง 1,818 มม., สูง 1,543 มม. (สูงกว่า EP 7 มม.) และ ระยะความยาวฐานล้อ 2,665 มม.

โดยไฟทั้งหมดจะเป็น LED (ไฟหน้า, ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3) โฉมใหม่แบบ Light Curtain Design ที่ช่วยให้ดูโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวมากขึ้น ทั้งยังมากับระบบควบคุมการเปิด - ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และ ระบบไฟ Daytime Running Lights ส่วนราวหลังคาที่ให้มาสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

ตัวล้ออัลลอยมีขนาด 17 นิ้ว นอกจากนี้ก็จะมี กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง, ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า

ส่วนของการออกแบบภายในก็ดูพรีเมียมใช้งานได้จริง โดยห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP โดยมีเทคโนโลยี Zero-G Seats เพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง กับความสามารถในการกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง

ส่วนแผงคอนโซลเป็นแบบ DOUBLE LAYER ที่จะมาพร้อมพื้นที่ช่องเก็บของ และที่วางแก้ว ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN

พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP ให้สมกับการเป็นรถ EV แต่ยังให้ผิวสัมผัสที่สบายและดูแลรักษาง่าย ด้านพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางโทรศัพท์

ใน New ES จะให้หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด โดยจะมีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบดิจิทัล พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 และยังมีกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ และระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย โดยที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาด 479 ลิตร (สามารถขยายเป็น 1,367 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง) ให้มาอีกด้วย

ทางด้านขุมพลังขับเคลื่อน New ES จะมากับ มอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ขนาด 51 kWh ตัวแบตเตอรี่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กิโลเมตร/ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ และระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ 

New ES ไปได้ทุกทิศทั่วไทย สะดวกสบายด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม พร้อมรองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% - 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 87 kWh และ Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที* ที่ 6.6 kWh รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่ติดตั้งแล้วกว่า 158 แห่ง ทั้งยังรองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์ (*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า)

ปลอดภัยและอุ่นใจ...สบายใจทุกการเดินทางใน New ES ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ ได้แก่ ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW เป็นต้น และยังมากับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และอำนวยความสะดวกสบายของผู้ใช้งานไปอีกขั้น ให้เข้าถึงระบบการใช้งานรถไฟฟ้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส กับ SMART CHECK (ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ), SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ)

โดย New MG ES มาพร้อมสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา, สีแดง และ สีเงิน สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ New MG ES สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่  >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<