รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ในปี 2023 นี้ ก็ดูจะเป็นรถที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีรถรุ่นใหม่ ๆ ทยอยกันเปิดตัวอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นรถที่นำเข้ามาจากจีน, ญี่ปุ่น และประเทศโซนยุโรปเองก็ตาม พร้อมกันนำเข้ามาโดยพยายามปรับราคาจำหน่าย พร้อมลด แลก แจก แถม เพื่อให้คนหันมาสนใจในรถประเภทนี้ โดยบทความนี้จะพูดถึงรถรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีราคาจำหน่ายไม่ถึง 1,000,000 บาท เท่านั้น
มาเริ่มกันที่กลุ่มแรกนั่นคือ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาราคาจำหน่ายต่ำกว่า 500,000 บาท โดยในกลุ่มนี้ก็จะมี รถจาก Wuling Air EV (เปิดตัวปี 2023) และ Volt City EV (เปิดตัวปี 2022) โดยทั้งคู่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ที่มีขนาดเล็ก ทั้ง 2 รุ่นจะแตกต่างกันตรงไหนไปดูกันเลย
Wuling Air EV
ถือว่าเป็นน้องเล็กที่มาทำตลาดในไทยโดย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก PT SGMW Indonesia ผู้ผลิตและจำหน่ายรถแบรนด์ Wuling (วู่หลิง) โดยเป็นบริษัทในเครือ SAIC-GM-WULING Automobile Company Limited หรือ SGMW ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่ผู้เดียวในไทย โดยได้เปิดตัวรถรุ่นแรกนั่นคือ Wuling Air EV ที่มากับแนวคิด Easy Drive : Easy Life ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้รถในเมือง พบว่ามีระยะการใช้งานประจำวันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 กิโลเมตร/วัน ทำให้รถรุ่นนี้ที่เป็นรถขนาดเล็ก ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 4 ที่นั่ง (ตัวถังแบบ 3 ประตู)
โดย Wuling Air EV จะเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า(บนเพลา) ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 40 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร โดยมีความจุแบตเตอรี่ 17.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ในรุ่น Standard Range สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง (8 ชั่วโมง) ส่วนรุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ 26.7 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชาร์จ แบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง (4 ชั่วโมง) คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่กิโลเมตรละ 35 สตางค์ โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่
ถึงแม้ Wuling Air EV จะมากับราคาประหยัด แต่ก็มีเทคโนโลยีความปลอดภัยมาให้ ครบครันเลยทีเดียว พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเปิดตัว สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/WulingThai และ www.instagram.com/wulingthai และ www.wulingthai.com
Volt City EV
นี่ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไซส์เล็กน่ารักที่มาทำตลาดในไทยโดย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด อีกเช่นกันทาง อีวี ไพรมัส จัดว่าเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์แห่งแรกของไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยไปในปี 2022 แต่จุดเด่นที่จะมีเหนือกว่า Wuling Air EV ก็คือ VolT City EV จะมีตัวถัง 2 แบบ นั่นคือ Volt For-Two เป็นรถ 3 ประตู 2 ที่นั่ง และ Volt For-Four ที่จะเป็นรถ 5 ประตู 4 ที่นั่ง
เมื่อเทียบกันแล้ว Volt For-Two จะมีราคาถูกกว่า Wuling Air EV อย่างชัดเจน โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (ขับเคลื่อนล้อหลัง) ให้กำลัง 40 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร โดยมีความจุแบตเตอรี่ 11.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 165 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง ใน Eco Mode และ 115 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง ใน Sport Mode ส่วนรุ่น Volt For-Four ให้กำลัง 46 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร โดยมีความจุแบตเตอรี่ 16.5 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง ใน Eco Mode และ 135 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง ใน Sport Mode
ในขณะที่ Long Range ความจุแบตเตอรี่ 26.7 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชาร์จ แบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง (4 ชั่วโมง) คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่กิโลเมตรละ 35 สตางค์
โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ (ราคานี้พร้อม Premium Rackage)
ส่วนอีกกลุ่มนึงก็จะเป็น รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระดับราคาขยับอยู่ในช่วง 500,000–1,000,000 บาท ซึ่งในกลุ่มนี้ก็จะมีรถจาก BYD, MG และ NETA โดยรถที่เปิดตัวใน 2023 ก็จะมี Dolphin ของ BYD และ MG ES นอกนั้นก็จะเป็นรถที่เปิดตัวในปี 2022 ไปดูกันว่ารถในระดับราคาขนาดนี้ คันไหนน่าสนใจกันบ้าง?
BYD Dolphin
เจ้าโลมาน้อย ถูกนำเข้ามาจำหน่ายโดย Rêver Automotive โดยรถยนต์แฮทช์แบ็กพลังงานไฟฟ้า ขนาด 5 ที่นั่ง ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในให้สอดคล้องกับโลมาสมกับชื่อรุ่น ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่จะทำตลาดในไทย โดยจะมี 2 รุ่นย่อย ให้เลือกกัน Standard Range และ Extended Range
Dolphin ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และพลังงานจาก BYD Blade Battery ในรุ่น Standard Range จะมีขนาด 44.9 กิโลวัตต์/ชั่วโมง กับกำลัง 70 กิโลวัตต์ แรงบิด 180 นิวตันเมตร มีระยะทางการวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NDEC) ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 12.3 วินาที ส่วนรุ่น Extended Range จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 60.48 กิโลวัตต์/ชั่วโมง กับกำลัง 150 กิโลวัตต์ แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร ทำให้มีระยะทางการวิ่งสูงสุด 490 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NDEC) ทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 7 วินาที โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ส่วนราคาจำหน่ายของ BYD Dolphin นั้นอยู่ที่
MG
MG รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยรถสเตชั่นแวกอนอย่าง EP ก่อนจะปรับโฉมเปลี่ยนชื่อรุ่นมาเป็น ES โดยมากับแนวคิด “COMFORTABLE เป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์” โดยตัวรถถูกออกแบบมาให้พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาสำคัญ โดยเน้นไปที่การออกแบบที่ดูพรีเมียมขึ้นตามหลัก New ERA Design
MG ES มากับมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต ขนาด 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 412 กิโลเมตร/ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้อยู่ที่
นอกจานี้ MG ยังมี ทางเลือกในเรทราคาระดับนี้ อีก 2 รุ่น นั่นคือ MG 4 Electric และ MG ZS EV ถึงแม้จะเป็นรถที่เปิดตัวในปี 2022
MG 4 Electric
เป็นรถแฮทช์แบ็กพลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง บวกกับนวัตกรรม Nebula Pure Electric Platform กับระบบความปลอดภัยแบบ Advanced Synchronize Protection System
โดย MG 4 Electric จะมากับ มอเตอร์ไฟฟ้า permanent Management Synchronous Motor กับแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate Battery ขนาด 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทำให้มีกำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 425 กิโลเมตร/ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนราคาจำหน่ายของ MG 4 Electric นั้นมี 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
MG ZS EV
เป็นรถ SUV ไฟฟ้า 100% ที่มากับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น เรียบง่าย แต่ผสานความสปอร์ตเข้าไว้ได้อย่างลงตัว ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขว้าง พร้อมรองรับทุกกิจกรรม โดยจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า permanent Management Synchronous Motor กับแบตเตอรี่ Lithium Ion Battery ขนาด 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง มีกำลังสูงสุด 177 แรงม้า และแรงบิด 280 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ 403 กิโลเมตร/ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนราคาจำหน่าย นั้นมี 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
NETA V
ปิดท้ายบทความนี้กันด้วย Neta V เป็นรถที่จัดจำหน่ายโดย เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) โดยจะมากับแนวคิด Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากประเทศจีน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 38.5 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทำให้สามารถวิ่งได้สูงสุด 384 กิโลเมตร/การชาร์จ (ตามมาตรฐาน NEDC) โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่
จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% ของกลุ่มที่มีราคาอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,000,000 บาท นั้นล้วนเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากจีน แต่จุดต่างกันก็คงต้องไปวัดกันที่บริการหลังการขายของแบรนด์ต่าง ๆ แล้วว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้แค่ไหน
ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีราคาต่ำกว่า 1,000,000 บาท สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว