รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยฟอร์ด สร้างสีสันให้ตลาดรถยนต์ไทยอีกครั้ง พร้อมมอบตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้นด้วยรุ่นย่อยใหม่ ทั้งในตระกูล Ranger ด้วย Raptor 2.0L, Ranger Stormtrak, Ranger XLS และตระกูล Everest ด้วยการเพิ่มรุ่น Everest Wildtrak แต่ละรุ่นจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน
Ranger Raptor 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคา 1,769,000 บาท
ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ชื่นชอบรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ในรุ่นก่อนเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร (V6) ส่วนรุ่นที่เพิ่มมาจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้กำลัง 210 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตัวเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง B20 ด้านดีไซน์ภายนอกและภายในดูจะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ในเรื่องของมิติตัวถังจะมีความกว้างลดลง 7 มม., ความยาวน้อยลง 16 มม., ความสูงเพิ่มขึ้น 53 มม. และระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. แต่ยังคงอัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นภายนอกที่มากับไฟหน้าแบบเมทริก แอลอีดี, ไฟท้ายแอลอีดี
ส่วนภายในก็มีหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 12.4 นิ้ว, หน้าจอควบคุมการสั่งงานแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว, แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่าน FordPass ส่วนเทคโนโลยีก็จัดมาให้ทั้งระบบเกียร์ไฟฟ้า, กล้องมองรอบคัน 360 องศา, เบรกมือไฟฟ้า, เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง
สิ่งที่ทำให้ Raptor ทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันพอจะสรุปได้สั้น ๆ ก็คือ ในรุ่น Raptor 2.0L นี้จะไม่มี ปลายท่อคู่ ส่วนช่วงล่าง Fox จะมีไม่เซ็นเซอร์ควบคุม Live วาล์ว แต่ที่จะเพิ่มมาคือแผ่นปิดฝาท้ายไฟฟ้าที่ให้มาจากโรงงาน
Ranger Stormtrak ราคา 1,264,000-1,399,000 บาท
นี่คือรุ่นย่อยใหม่ที่เพิ่มเข้ามา แตกต่างจากรุ่นทั่วไปด้วยราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ หรือ Flexible Rack System ให้ผู้ขับขี่สามรถปรับได้ด้วยมือเปล่า และเลื่อนจุดล็อกได้ 5 ตำแหน่ง รองรับการขนย้ายสัมภาระได้มากกว่า ทั้งยังรองรับน้ำหนักสูงสุด 80 กก. (ขณะขับ) และ 250 กก. (ขณะจอด
ส่วนการออกแบบภายนอกเพิ่มความดุดัน ด้วยกระจังหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่นสตอร์มแทรค รวมถึงสติ๊กเกอร์ตกแต่งรอบคัน และนับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งไฟ AUX Lamp (ทำงานเมื่อเปิดไฟสูง) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืน หรือในทุกสภาพอากาศ เป็นการเพิ่มความปลอดภัย
ภายในของรุ่นสตอร์มแทรค จะมากับเบาะหนังและหนังสังเคราะห์ภายในตกแต่งด้วยสีดำ-แดง ช่วยเพิ่มความหรูหราพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter, เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist), ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง อีกด้วย
โดย Ranger Stormtrak จะมี 2 รุ่นย่อย
Ranger XLS ราคา 794,000-879,000 บาท
XLS เป็นรถกระบะยกสูงรุ่นย่อยใหม่ของ Ranger ที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ สำหรับกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน กับสมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมเป็นผู้ช่วยให้ทุกงานสำเร็จได้ง่ายขึ้น ถูกพัฒนาขึ้นจากการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งแบบ 4 ประตู และแบบตอนครึ่ง
โดย Ranger XLS จะมี 2 รุ่นย่อย
Everest Wildtrak 2.0L Bi-Turbo 4x4 10ATราคา 1,899,000 บาท
ถือเป็นการเพิ่มรุ่นย่อยให้รถตระกูล เอเวอเรสต์ รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่รักความท้าทายและการผจญภัย พร้อมทุกเส้นทางด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E- Shifter ให้กำลัง 210 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ได้แก่ Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิว
แตกต่างด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกนั้นโดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นพร้อมตัวอักษร WILDTRAK สีดำบนฝากระโปรงหน้า
ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหราสะดวกสบาย เน้นโทนสีดำให้ความรู้สึกดุดันตามสไตล์ของรุ่นนี้ เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำพร้อมเดินด้ายสีส้ม และโลโก้ซิกเนเจอร์ Wildtrak ที่เบาะคู่หน้า
สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ Ford ทุกรุ่นย่อย สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว