MG เคาะราคา NEW MG MAXUS 9 เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป

สำหรับ NEW MG MAXUS 9 ทั้ง 2 รุ่นย่อย (X และ V) มากับจุดเด่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย เพราะเป็นรายแรกที่เปิดเซกเมนต์ใหม่ โดยดีไซน์ภายนอกจะมากับความโดดเด่นที่ผสานความลงตัวด้วยกระจังหน้าแบบ Grille Less Design, หลังคา Dual Panoramic Sunroof ที่ยาวถึงด้านหลังช่วยทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบาย อีกทั้งประตูข้างทั้ง 2 ด้านยังเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด - ปิดด้วยไฟฟ้า และไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights โดยมีระบบควบคุมการเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ส่วนไฟท้ายก็เป็นแบบ LED ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ส่วนการตกแต่งภายในของ NEW MG MAXUS 9 นอกจากจะมี Dual Panoramic Sunroof แล้วก็ยังมี Ambient Light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี และระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง โดยเบาะคนขับจะมากับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

และเบาะแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat ที่ให้ความสะดวกสบายเหมือนที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยจะมีระบบบันทึก, ระบบนวด และปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้

ส่วนหน้าจอกลางแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android นอกจากนี้ยังมากับลำโพงมากถึง 12 จุด และช่อง USB มากถึง 9 จุด และท้ายที่สุดกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror

NEW MG MAXUS 9 จะมากับสมรรถนะที่เรียกได้ว่าสมฐานะของ e-MPV คันแรกของเมืองไทย ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ Lithium-Ion Battery ที่จัดวางแบบ Cell-To-Pack ขนาด 90 kWh ทำให้สามารถทำระยะทางวิ่งได้สูงสุดที่ 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมรองรับการชาร์จเร็วได้สูงสุดที่ 120 kWh โดยชาร์จไฟจาก 30% - 80% โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh โดยชาร์จไฟจาก 5% - 100% ภายในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง

หากคุณเลือก NEW MG MAXUS 9 ก็จะสามารถมั่นใจในทุก ๆ การขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame, ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ ซึ่งทำให้รถคันนี้สามารถที่จะได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP

NEW MG MAXUS 9 ยังมากับแคมเปญพิเศษในช่วงเปิดตัวจาก MG มูลค่ากว่า 120,000 บาท ดังนี้

• ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด มูลค่า 42,057 บาท
• ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER มูลค่า 18,692 บาท
• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
• พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการรถ Limousine Service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 

โดย MG พร้อมทำตลาดและจัดจำหน่าย NEW MG MAXUS 9 ในไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่

• รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท

• รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่มอีก 30,000 บาท

และเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมส่งมอบ NEW MG MAXUS 9 ล็อตแรกให้แก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตั้งเป้าสามารถส่งมอบได้ไม่ต่ำกว่า 500 คัน ภายในเดือนมิถุนายน สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถ NEW MG MAXUS 9 สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่  >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<