Leapmotor B10 2025 รถ EV ที่ทำให้คู่แข่งร้องไห้เพราะราคาและสเปก

หนึ่งในโมเดลรถไฟฟ้าที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากก็คือ Leapmotor B10 เป็นรถ compact crossover SUV จากจีนที่มาพร้อมสเปกแบตเตอรี่ระดับสูง ระยะทางที่วิ่งได้ไกล ระบบชาร์จเร็ว และฟีเจอร์ล้ำทั้ง LiDAR และ AI assistants ในราคาที่ดึงดูดใจ รีวิวนี้จะพาไปเจาะลึกว่าจริง ๆ แล้ว Leapmotor B10 คุ้มหรือไม่ น่าจับจองเป็นเจ้าของหรือเปล่า ไปดูกัน!

ขุมพลังและแบตเตอรี่ของ Leapmotor B10

Leapmotor B10 มี 3 รุ่นย่อย

• รุ่น Basic ใช้มอเตอร์ขนาด 132 กิโลวัตน์ หรือ 177 แรงม้า หรือ แรงบิด 175 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ LFP ขนาด 56.2 กิโลวัตน์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน CLTC 510 กม. ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
• รุ่น High-end ใช้มอเตอร์ขนาด 160 กิโลวัตน์ หรือ 215-217 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ LFP ขนาด 56.2 กิโลวัตน์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน CLTC 510 กม. เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับ LiDAR และ ADAS level 2110 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.3 วินาที ซึ่งรุ่นนี้มียอดจองสูงสุดในประเทศจีนหลังจากที่มีการประกาศให้จอง
• รุ่น Long Range ใช้มอเตอร์ขนาด 160 กิโลวัตน์ หรือ 215-217 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ LFP ขนาด 67.1 กิโลวัตน์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน CLTC คือ 600 กม. รุ่นที่มี LiDAR และแบตเตอรี่ 67.1 กิโลวัตน์/ชั่วโมง ถูกเรียกว่า 600 Joy, LiDAR อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.0 วินาที 

การชาร์จของ Leapmotor B10 แบตเตอรี่รองรับระบบชาร์จเร็ว DC สูงสุด 80-95 กิโลวัตน์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 30-80% ใช้เวลาเพียงราว 19-20 นาที เหมาะสำหรับใช้งานประจำวันและเดินทางไกลในเมืองใหญ่หรือชานเมือง

ดีไซน์การออกแบบ Leapmotor B10

• ภายนอกออกแบบรูปทรง B-SUV ทันสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู ออกแบบภายนอกให้ต้านลมได้น้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และประหยัดพลังงาน ไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบคม กระจังหน้าขนาดกะทัดรัด เน้นความเรียบเท่สไตล์รถไฟฟ้า ล้ออัลลอยดีไซน์สวยงามขนาด 18-19 นิ้ว เสริมลุคสปอร์ต พรีเมียม กระจกข้างและเส้นสายตัวถังเน้นความลื่นไหล ลดแรงเสียดทานอากาศ
• ภายในการออกแบบห้องโดยสารในสไตล์มินิมอล โดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูง และการจัดวางที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทันสมัย พวงมาลัยทรงสปอร์ต ใช้วัสดุหนังสัมผัสนุ่ม พร้อมควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ทันทีที่ปลายนิ้ว เบาะนั่งออกแบบเพื่อความสบาย รองรับสรีระโดยเฉพาะในการขับขี่ระยะไกล แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ที่ใช้ฟังก์ชันครบครัน รองรับแสดงผลกราฟิกสวยงาม ควบคุมง่าย ระบบเสียงคุณภาพสูง และวัสดุดูดซับเสียงอย่างดีทำให้ภายในเงียบสงบ เพิ่มความผ่อนคลายในการขับขี่

เทคโนโลยีและความอัจฉริยะ Leapmotor B10

• ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) Leapmotor B10 มาพร้อมระบบ ADAS Level 2 และคุณสมบัติที่น่าสนใจมากคือการติดตั้ง เซ็นเซอร์ LiDAR เป็นระบบที่ใช้วัดระยะทางและความลึกของวัตถุโดยการปล่อยแสงเลเซอร์และคำนวณเวลาที่แสงสะท้อนกลับมา
• ฟังก์ชัน ADAS ประกอบด้วย 17-26 ฟีเจอร์ เช่น Smart Parking, Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist, และมีแผนอัปเดตระบบขับขี่อัตโนมัติในเมือง
• หน้าจอสัมผัสแบบ Floating Style ขนาด 14.6 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียด 2.5K
• มีระบบผู้ช่วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI สองโมเดลคือ Deepseek และ Tongyi Qianwen
• เบาะหนังเทียมสีขาว และสีเทา พร้อมไฟสร้างบรรยากาศ 256 สี, หลังคากระจกพาโนรามาขนาดใหญ่ ประมาณ 1.83 ตร.ม. พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า

ข้อดีและข้อสังเกต Leapmotor B10

ข้อดี

• ระยะทางเดินทางไกล รองรับการขับขี่แบบใช้จริง 510-600 กม. (CLTC)
• ระบบชาร์จเร็วมาก เพราะสามารถชาร์จในระยะเวลาสั้น ๆ ภายใน 20 นาที
• สมรรถนะดี เร่งแรง มอเตอร์ตอบสนองไว
• เทคโนโลยีความปลอดภัยและช่วยขับขี่ล้ำสมัย ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
• ห้องโดยสารกว้างขวาง และระบบคอนเน็กต์ทันสมัย

ข้อสังเกต

• รองรับระบบ Android Auto/Apple CarPlay ยังไม่เปิดใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างพัฒนา
• ขับเคลื่อนเฉพาะล้อหลัง (RWD) ไม่มีรุ่น 4WD
• ยังไม่มีข้อมูลความทนทานในระยะยาว

ราคาของ Leapmotor B10

ช่วงราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Leapmotor B10 ในประเทศจีนราคาอยู่ในช่วง 99,800 – 129,800 หยวน เมื่อหากคิดเป็นเงินไทยประมาณ 446,000 – 580,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ Leapmotor B10 หรือถ้าคุณสนใจรถรุ่นอื่น ๆ สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<