Honda เปิดตัว All-New Accord e:HEV สปอร์ตพรีเมียมแฟลกชิปซีดาน ที่พร้อมมอบความสมบูรณ์แบบในทุกการเดินทาง ด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด และเทคโนโลยี Honda SENSING ในราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท

e:HEV E

e:HEV EL

e:HEV RS

โดยพัฒนาภายใต้แนวคิด Driven by my Accord เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่ไม่เพียงเป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง แต่เป็นพาร์ตเนอร์ที่พาคุณก้าวไปอีกขั้นในการใช้ชีวิต โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ Accomplished ความหรูหรา ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ, Revitalize พลังแห่งความสดใส มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง และ Advance วิวัฒนาการของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งฟังก์ชันในการใช้งาน เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดที่ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง

ดีไซน์ภายนอกของ All-New Accord e:HEV มาโฉมนี้ดูโดดเด่นในทุกมิติ โดยผสานความหรูหรา เข้ากับความสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างลงตัว โดยได้การออกแบบภายใต้แนวคิด “Creative Black Tie” แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงการออกแบบของรถรุ่นนี้ ที่ถูกทำให้น่าหลงใหล ด้วยการเพิ่มขนาดตัวถังให้มีความยาวมากขึ้นที่ 68 มม. และฝากระโปรงหน้าที่มีความลาดเอียง และความยาวขึ้น เชื่อมต่อกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถัง ในคอนเซปต์ Low & Wide อีกทั้งยังมีการออกแบบให้ด้านท้ายลาด ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูปราดเปรียว สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตา

โดยได้มีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่, ไฟหน้าและไฟท้าย รวมถึงไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ทั้งหมดล้วนเป็นแบบ LED, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ, กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (ในรุ่น e:HEV EL และe:HEV RS) และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น e:HEV EL) ส่วนรุ่น e:HEV RS จะเป็นขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต์

เสริมความสปอร์ตอีกขั้นกับดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน พร้อมหลังคาแบบ Panoramic Sunroof, ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential และ ระบบใหม่นั่นคือระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card

ภายในห้องโดยสาร All-New Accord e:HEV นั้นเน้นให้ดูกว้างขวาง ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort ที่เน้นให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว เช่น แผงด้านหน้าและแผงประตู ที่เชื่อมต่อกันในแนวนอน Intelligence หรือการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น เช่น การจัดการข้อมูลบนหน้าจอ Display Audio ที่มีขนาดใหญ่ให้อยู่ตรงกลาง และ Advance ความเรียบหรูล้ำสมัย เช่น การออกแบบบริเวณแผงคอนโซลกลาง หรือที่วางแขน ให้สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับของรถ ผสานด้วยการใช้ Finishing ที่ให้ความหรูหรา ประณีต เสริมด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มในจุดที่มีการสัมผัสบ่อย มอบความสะดวกสบายและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร อีกทั้งโดดเด่นด้วยพื้นที่ช่วงขาและช่วงเข่า และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

โดยจะมากับระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย, ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD), ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หรือ Wireless Charger

All-New Accord e:HEV จะมากับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดในทุกรุ่นย่อย โดยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้า และแรงบิด 335 นิวตันเมตร ในระบบเกียร์ E-CVT ส่วนแบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียม-ไอออน โดยทั้งหมดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ ขนาด 2 ลิตร ที่ให้กำลัง 147 แรงม้า และแรงบิด 182 นิวตันเมตร เมื่อรวมกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์จะได้พละกำลังอยู่ที่ 207 แรงม้า และยังมีอัตราประหยัดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร พร้อมทั้งสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยจะมี EV Switch ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ทั้งยังมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้ และสวิตช์ Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ประกอบด้วย Individual Mode, Sport Mode, Normal Mode และ Econ Mode

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย All-New Accord e:HEV นั้นเสริมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำที่สามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมดที่เลือก และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้ นอกจากนี้ยังเสริมด้วยเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัยซึ่งเป็นครั้งแรกที่ระบบเหล่านี้ถูกติดตั้งในรถรุ่นนี้ อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้ดั่งใจที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ, ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน, Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google, ไฟ Multi-color Ambient Light หรือ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ที่เป็นแบบปรับเฉดสีได้ โดยมี 2 โหมด ให้เลือก ได้แก่ Recommended Color สามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และ Theme Color สามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี, ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆ อาทิ ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย, ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL), เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด, ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น

All-New Accord e:HEV นั้นจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม(มุก), สีเงินลูนาร์(เมทัลลิก), สีเทาเมทิเออรอยด์(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล(มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง(เฉพาะรุ่น e:HEV RS) โดยมีราคาดังนี้

• e:HEV E 1,529,000 บาท
• e:HEV EL 1,669,000 บาท
• e:HEV RS 1,799,000 บาท

นอกจากนี้ยังมากับการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ All-New Honda Accord e:HEV สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<