XPENG เดินเกมรุกตลาด บุกตลาดรถยนต์ไทย ลุ้นนำ P7i รถซีดานไฟฟ้าสุดล้ำ เข้ามาจำหน่ายในไทย เร็ว ๆ นี้

     Xpeng (เอ็กซ์เผิง) นั้นเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเกิดขี้นจาก โปรแกรมเมอร์ฝีมือดีที่ผันตัวเองมาเป็นประธานบริษัทสตาร์ทอัป ทั้งยังพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองอีกด้วย ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทางในอนาคต

     สำหรับการเข้ามาในไทยนั้นเกิดจากการตั้ง เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย (ดิสทริบิวเตอร์) ภายใต้ เอ็กซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง กลุ่มอรุณ พลัส (ในเครือ บมจ. ปตท.) กับ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA โดยได้รับความไว้วางใจจาก เอ็กซ์เผิง มอเตอร์ส เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบในไทย

     โดยนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ มาจัดแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 หลากหลายรุ่นไปจนถึงยานยนต์บินได้ 2 ที่นั่ง แต่รถที่เราจะมานำเสนอก็คือ Xpeng P7i รถซีดานไฟฟ้าที่มากับนวัตกรรมสุดล้ำ

     Xpeng P7i นั้นมีหลายรุ่นย่อย แต่ก็ยังไม่แน่ว่า เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย จะเลือกรุ่นไหนมาจำหน่ายบ้าง โดยจะมีทั้งรุ่นที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) โดยในรุ่นขับเคลื่อนล้อ (วางมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หลัง) ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที

     เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะวิ่งได้ไกลถึง 702 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) ขณะที่ รุ่น AWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ ที่ให้กำลัง 467 แรงม้า กับแรงบิด 757 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที แต่ระยะทางการวิ่งจะน้อยลงเหลือ 610 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม. 

     เรื่องของระบบการชาร์จถ้าเป็นการชาร์จแบบเร็ว (DC) จาก 10%-80% ในเวลาเพียง 29 นาที ส่วนการชาร์จแบบธรรมดา (AC) ชาร์จไฟจาก 30%–80% ในเวลาไม่เกิน 5 ชม. แต่ถ้าจะชาร์จจนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 10 ชม. รถคันนี้สามารถเบรกที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ถึงหยุดนิ่ง ในระยะเพียง 33.33 เมตร

     ภายนอกของ Xpeng P7i จะเป็นรถสปอร์ตซีดานที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.236 ด้วยการออกแบบตัวถังแบบคูเป้ท้ายลาด ประกอบกับการออกแบบตัวถังให้มีความโค้งมน ดูพริ้วไหว ไฟตรงหน้ารถจะเป็นแนวยาวตามฝากระโปรงหน้าและมีอีกส่วนที่ถูกแบ่งมาอยู่บริเวณกันชน ที่ถูกปรับให้มีความสว่างมากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นเก่าถึง 20% 

     นอกจากนั้น มือเปิดประตู ยังถูกฝังเรียบไปกับตัวถัง ไม่มีกรอบหน้าต่าง และหลังคากระจกพาโนรามา ทั้งยังมีรุ่นพิเศษ ที่ใช้ชื่อ Wing Edition ที่ประตูจะเปิดแบบกรรไกร (Scissor Doors) ซึ่งโดยรวมก็ไม่ต่างจาก XPENG P7i และปรับปีกหลัง รวมถึงกระจกบังลมพาโนรามา ให้ลดค่าแรงเสียดทานอากาศได้ดีขึ้นกว่าเดิม

     ความล้ำสมัยยังอยู่ใน Xpeng P7i ด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ HD Liquid Crystal ขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่หน้าจอทัชสกรีนไว้สำหรับควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ จะมากับขนาด 15 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง และระบบปฏิบัติการ Xmart OS 4.0

     ที่ใช้ประมวลผล Qualcomm Snapdragon SA8155P ด้านเบาะนั่งเป็นหนัง ที่มีระบบอุ่นเบาะได้ทั้งด้านหน้าและหลัง, Wireless Charger, ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร, USB Type-C ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน

     ด้านระบบความปลอดภัย Xpeng P7i จะติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ XPilot ที่จะมาพร้อมระบบ Cruise Control ที่สามารถปรับได้ ระบบควบคุมให้อยู่กลางเลน ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ และระบบช่วยนำรถออกอัตโนมัติ อีกทั้ยังมีระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบจดจำป้ายจราจร ฯลฯ

     และระบบ LiDAR คู่ที่อยู่ในไฟหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมเซนเซอร์ 31 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และเซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว โดยเชื่อมต่อกับกล้องรอบคัน เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่อระบบขับขี่ให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่ ทั้งยังได้รับมาตรฐาน E-NCAP และ C-NCAP ในระดับ 5 ดาวอีกด้วย

     Xpeng P7i คาดว่าน่าจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 1.7 - 2 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีคงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยก่อน ซึ่งในขณะนี้ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้จองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ Xpeng G6 รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Ultra Smart Coupe SUV ได้แล้ววันนี้

ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถ Xpeng ไม่ว่าจะเป็น G6 หรือ P7i สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<