รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยหลังจากที่ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย กลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หรือ Thailand Authorized Distributor ได้เปิดตัว BYD ATTO3 จนกวาดยอดขายไปได้เป็นอย่างดี โดยส่งมอบไปแล้วกว่า 10,000 คัน ถือเป็นการปลุกความสนใจในกลุ่มคนที่กำลังมองหารถสักคัน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากราคากับคุณภาพของ BYD นั้นค่อนข้างที่จะน่าสนใจเลยทีเดียว จากนั้นก็ได้ทำการเปิดตัวรถอีกรุ่นนั่นคือ BYD DOLPHIN ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัด
โดยภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2566 ทาง BYD ก็เปิดให้ลูกค้าที่มีความสนใจสามารถจอง DOLPHIN ในรุ่น Standard Range ที่ราคาคาดการจำหน่าย 799,999 บาท นอกจากนี้ก็ยังนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ มาจัดแสดง ประกอบด้วย SEAL EV, DENZA D9, FRIGATE07, HAN EV, TANG EV และ SONG PLUS DMi
โดย SEAL เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความสนใจ โดยจะมากับมิติตัวถังที่มีความยาว 4,800 มม., กว้าง 1,875 มม., สูง 1,460 มม. และ ระยะฐานล้อ 2,920 มม. กับการออกแบบภายนอกที่มีความโค้งมน เพื่อให้ตัวรถนั้นได้รับประโยชน์จากหลักอากาศพลศาสตร์ที่จะช่วยลดแรงต้านทานอากาศ โดยจะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.219 Cd เพื่อทำให้ SEAL มีการใช้พลังงานลดลง ทั้งยังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก BYD Ocean X ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ด้านหน้าจะมากับไฟหน้า LED ที่เพรียวบาง และช่องดูดอากาศด้านล่างขนาดกะทัดรัด ส่วนกันชนหน้าตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำ และไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
ส่วนการออกแบบภายในห้องโดยสารของ SEAL ถือเป็นที่สุดของความไฮเทค ทั้งเรื่องดีไซน์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ทรง D Shape เมื่อมองลอดผ่านพวงมาลัยจะเป็นหน้าจอ Driver Display ที่แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล จากนั้นก็เป็น Head-up Display ที่แสดงข้อมูลที่จำเป็นบนกระจก โดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน ส่วนจอแสดงผล Infotainment จะมีขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ส่วนเบาะโดยสารจะเป็นแบบสปอร์ตในที่นั่งด้านหน้า โดยจะเป็นเบาะนั่งหนังสีขาวสลับสีน้ำเงินอ่อน
ในด้านการขับเคลื่อนของ SEAL นั้นในต่างประเทศจะมีจำหน่ายอยู่ถึง 4 รุ่นย่อย ประกอบไปด้วย
Long Range (ขับเคลื่อนล้อหลัง และเป็นรุ่นที่เชิญสื่อไปทดลองขับคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำรุ่นย่อยนี้มาจำหน่ายในไทย) ที่มีระยะทางวิ่งได้ถึง 700 กม. ส่วนแบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 82.5 kWh โดยมีแรงม้าอยู่ที่ 308 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.9 วินาที
Long Range Performance (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ที่มีระยะทางวิ่งได้ถึง 650 กม. ส่วนแบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 82.5 kWh โดยมีมอเตอร์ 2 ตัวทำให้มีแรงม้าที่หมดอยู่ที่ 523 แรงม้า และแรงบิด 670 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.8 วินาที
ส่วนของเทคโนโลยี SEAL ได้รับการพัฒนามาจากแพลทฟอร์มอัจฉริยะ e-Platform 3.0 และเป็นยานยนต์ไฟฟ้าโมเดลแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยี CTB (cell-to-body) ที่ช่วยให้ BYD Blade Battery ผสานการทำงานกับแพลทฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมากับ iTAC (Intelligence Torque Adaption Control) ที่จะช่วยให้ตัวรถมีแรงบิด หรือแรงฉุดลากมากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีระบบอื่น ๆ มาให้อีกมากมาย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ BYD SEAL คงต้องรอดูว่าทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ แต่ก็คาดการว่าจะเป็นหนึ่งในรุ่นจะเปิดตัวในอนาคตนี้แน่นอน แต่ถ้าไม่อยากรอก็มี BYD ATTO3 และ BYD DOLPHIN มาให้คุณได้เลือกกันก่อน สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว