รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!

QRCODE

ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที

เริ่มประเมินวงเงิน

หรือ

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลย

BYD เตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ในไทย มาลุ้นกันว่าจะใช่ Dolphin หรือไม่

บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) ในฐานะผู้จัดจำหน่าย BYD และให้บริการหลังการขายสำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หรือ Thailand Authorized Distributor โดยที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัว ATTO 3 รถยนต์ Premium SUV 5 ที่นั่ง มาจำหน่ายเป็นรุ่นแรก ซึ่งก็มี 2 ทางเลือก คือ Standard Range (ราคา 1,099,900 บาท) และ Extend Range (ราคา 1,199,900 บาท) ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ก็คงกำลังลุ้นกันว่า Rêver Automotive จะเปิดตัวรถรุ่นที่ 2 ในไทยคือรุ่นใดกัน เพราะในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในตลาดโลกก็มีรถรุ่นต่าง ๆ ให้เลือกทั้ง SEAL EV, TANG EV, HAN EV, QIN PLUS DMi, SONG PLUS DMi และ Dolphin

BYD-Dolphin-0

ซึ่ง Dolphin ก็เพิ่งจะเปิดตัวโมเดล 2023 ในประเทศจีน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำเข้ามาเปิดตัวในไทยในเร็ว ๆ นี้ โดย Dolphin ในโฉมนี้ ยังคงเป็นรถแบบ Hatchback ที่มี 5 ประตู 5 ที่นั่ง โดยจะมากับขนาดตัวถังยาว 4,125 มม., กว้าง 1,770 มม. และสูง 1,570 มม. ส่วนระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,700 มม. โดยในตลาดจีนจะมีอยู่ 3 รุ่นย่อยให้เลือก โดยจะมีหลังคาแบบ Panoramic Roof มาด้วย (ต้องรอดูว่ารุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทยจะมีไหม)

BYD-Dolphin-1
BYD-Dolphin-2

ล้อที่ให้มาใน Dolphin 2023 ก็จะเป็นล้ออลูมิเนียมอัลลอย 2 ขนาด ให้เลือกก็คือขนาด 16 นิ้ว กับยาง 195/60 R16 และขนาด 17 นิ้ว กับยาง 205/50 R17 ส่วนเสาอากาศจะเป็นแบบครีบฉลาม ฯลฯ ซึ่งตัวรุ่นนี้ก็ยังคงใช้โครงสร้างตัวถัง BYD e-platform 3.0 เช่นเดิม ส่วนโคมไฟหน้าใช้แบบ LED ที่มีระบบปรับความสูง-ต่ำได้, เปิดโดยอัตโนมัติ ที่มาพร้อมไฟ Daytime Running Light ส่วนไฟท้ายก็จะใช้แบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่สปอยเลอร์หลังคา

BYD-Dolphin-3

ภายในของ Dolphin 2023 ก็ดูจะไม่แตกต่างจากโฉมก่อนหน้าเท่าไรนัก ซึ่งภายในใช้สีทูโทน โดยจะมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ส่วนหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่จะเป็นจอ LCD ขนาด 5 นิ้ว ส่วนจอของระบบ Infotainment จะมีขนาด 12.8 นิ้ว และมือจับเพื่อเปิดประตูด้านในก็ยังคงใช้การออกแบบที่เอาไอเดียมาจากครีบของปลาโลมาให้สมกับชื่อรุ่น Dolphin

BYD-Dolphin-4
BYD-Dolphin-5

เบาะโดยสารจะเป็นหนัง โดยเบาะผู้ขับขี่จะมีระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนคนโดยสารมีทั้งแบบแมนนวล 4 ทิศทาง และ ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง รวมถึง Wireless Charging, ฟังก์ชัน WiFi ภายในรถยนต์ และ จุดชาร์จไฟ 12V ภายในรถ (บางส่วนจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย) ส่วนระบบปรับอากาศก็จะเป็นแบบอัตโนมัติที่มีแผ่นกรองอากาศ PM2.5 มาให้ด้วย

BYD-Dolphin-6

ด้านขุมพลังของ Dolphin 2023 จะมากับมอเตอร์ขับเคลื่อนที่มีให้เลือก 2 แบบ นั่นคือ มอเตอร์ที่มีกำลังขับ 70 kW แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 10.9 วินาที วิ่งได้ไกลสูงสุด 420 กิโลเมตร กับรุ่นที่มอเตอร์มีกำลังขับ 130 kW แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 7.5 วินาที ทำระยะทางวิ่งได้ไกลสูงสุด 401 กิโลเมตร

BYD-Dolphin-7

ส่วนแบตเตอรี่ BYD LFP Blade Battery Pack มีขนาดความจุ 44.9 kWh ซึ่งจะสามารถชาร์จแบบเร็วได้ภายใน 30 นาที (30%-80%)

BYD-Dolphin-8

ด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ความปลอดภัยของ Dolphin 2023 เริ่มด้วยถุงลมนิรภัยก็จะให้มาแบบจัดเต็ม นอกนั้นก็มีการเพิ่มระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS, ระบบอุ่นเบาะคู่หน้า, เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง, เบาะคนนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง, เรดาร์ช่วยจอดด้านหน้า, ระบบเตือนเมื่อไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะมีทั้งแถวหน้า และแบบรถทั้งคัน รวมถึงโหมดการขับขี่ที่จากเดิมมี 3 โหมดคือ Energy Saving, Snow และ Sport แต่ในโฉมนี้มีการเพิ่มโหมด Comfort เข้าไป นอกจากนี้ก็จะมีจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISO-FIX, ระบบกันขโมยอัจฉริยะ, ระบบเตือนคนเดินถนนความเร็วต่ำ ฯลฯ ทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่อีกหลายรายการ

สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ BYD สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่  >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<


บทความแนะนำ

swiper-arrow-prev
swiper-arrow-next
ขอสินเชื่อ จัดเลย!
กลับสู่ด้านบน