Toyota Hilux REVO-D เพิ่มความคุ้มค่า น่าใช้ มาครบทั้งยกสูง และตัวเตี้ย พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

กลุ่มรถกระบะเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ : เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในรถประเภทนี้ ด้วยสถิติการขายอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 46 % ในรุ่น Standard Cab และ Extra cab ที่เน้นการใช้งานเพื่อธุรกิจ และการบรรทุก

ทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เพิ่มรุ่น Standard Cab 4WD เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบ Sequential shift หรือ 4x4 2.8 Entry AT ส่วนเครื่องยนต์จะเป็น 2.8 GD 2nd Generation Super Power ที่ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงเต็มสมรรถนะตอบสนองได้อย่างใจ, ประหยัดน้ำมัน พร้อมความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC 

ซึ่งเหมาะกับกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้งานบรรทุกหนักบนเส้นทางทุรกันดาร เพื่อนำผลิตผลการเกษตรจากในไร่ออกสู่ตลาด

กลุ่มรถกระบะเพื่อการใช้งานส่วนบุคคล : เพื่อตอบสนองการใช้งานที่เน้นการเดินทาง พร้อมด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอย ตอกย้ำการเป็นรถรถกระบะ 4 ประตู ที่ได้รับความนิยม จึงได้นำแนวคิดในการออกแบบ Trapizoidal Face Design ที่กำลังได้รับความนิยมมาใช้กับรุ่นยกสูง (Hi-Floor) พร้อมเพิ่มสมรรถนะสปอร์ตในการขับขี่ด้วยชุดช่วงล่างระดับตำนาน Motorsport GR-Sport ใน Hilux REVO-D ตัวเตี้ย (Lo-Floor) 

Hilux REVO-D 4 ประตู Z-Edition (Lo-Floor) รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เอาใจกลุ่มวัยรุ่น และคนทำงานกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นใช้รถในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทางมาทำงาน และการใช้ชีวิตหลังเลิกงาน โดยยังคงให้การเกาะถนนหนึบแต่นุ่มนวล และความสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้นจากช่วงล่างปรับจูนใหม่สไตล์ GR Sport ที่เกิดขึ้นจากปรัชญาการพัฒนารถแข่งระดับโลก Gazoo Racing โดยลดความสูงช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์, ลดอาการโคลงของตัวรถ, ทรงตัวดีขึ้นทำให้ควบคุมบังคับแม่นยำขึ้น ตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มหนึบแบบรถเก๋ง พร้อมปรับขนาดล้ออัลลอยจากเดิม 16 เป็น 17 นิ้ว และเพิ่มความนุ่มนวลด้วยการใช้ยาง Radial ขนาด 215/55R17 ทำให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้ดั่งใจ และสนุกสนานในการขับขี่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง แผ่นกรองระบบปรับอากาศ PM 2.5

Hilux REVO-D 4 ประตู ยกสูง (High floor) มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย Trapizoidal Face Design และเพิ่มไฟหน้า LED ในรุ่น Entry รวมทั้งเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยให้เป็นมาตรฐาน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน และการพักผ่อนช่วงวันหยุด รวมทั้งกลุ่มผู้หญิง ซึ่งตอบรับการออกแบบใหม่ที่ผสมผสานความนุ่นนวล และประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัย (สำหรับรุ่น Entry) อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC