รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยโตโยต้า ในวันนี้กำลังมุ่งมั่นสู่ Carbon Neutrality หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในเร็ว ๆ นี้ โดยได้มีการจัดกิจกรรมที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวทั้ง ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า ที่เชิญชวนคนไทยร่วมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชีวิตประจำวัน หรือ ลงนามในข้อตกลงกับพันธมิตรเพื่อความร่วมมือในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในไทย และล่าสุดภายในงานโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2023 (สนามสุดท้าย) ก็ได้มีการนำรถต้นแบบของ Toyota Hilux ที่มากับ 3 ขุมพลังทางเลือกใหม่ ทั้ง BEV,FCEV และ Diesel HEV มาแสดง พร้อมให้สื่อมวลชนได้สัมผัส และทดลองขับ
มาเริ่มที่คันแรก BEV เป็นรถกระบะ Toyota Hilux รุ่นหัวเดี่ยวที่ปรับมาขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยมีชื่อว่า Toyota Hilux Revo e โดยรถคันนี้ได้เผยโฉมมาแล้วในงานฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 60 ปี ของโตโยต้า ในฐานะรถต้นแบบโดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นเชิงพาณิชย์ โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้รถรุ่นนี้กับบริษัทที่เป็นพันธมิตร และคาดว่าไม่นานนี้ก็จะมีการผลิตเพื่อจำหน่ายสู่สาธารณะต่อไป
Toyota Hilux Revo e นั้นภายนอกจะมีขนาดและมิติตัวถังเหมือนกันกับ Toyota Hilux Revo ในรุ่น Standard Cab นั่นคือ ยาว 5,265 มม., กว้าง 1,800 มม. และสูง 1,795 มม. โดยด้านหน้าจะมากับชุดกระจังหน้าแบบปิดทึบ เหมือนรถไฟฟ้าทั่ว ๆ ไปที่มีคล้ายกัน พร้อมกับกันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ ทั้งยังติดตั้งช่องชาร์จไฟอยู่ที่บริเวณแก้มด้านหน้าฝั่งซ้ายของตัวรถ
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นแทบจะไม่ต่างกับ Hilux Revo แต่ก็ดูกันให้ละเอียดก็จะพบว่า มาตรวัดมีการปรับมาเพื่อรถ BEV โดยเฉพาะ ที่จะแสดงปริมาณไฟฟ้าให้เห็น และบริเวณคันเกียร์ก็เปลี่ยนมาเป็นแบบมือหมุน (และกดหมุนในบางเกียร์เพิ่อความปลอดภัย) ทั้งยังมีการติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า นอกจากนั้นก็ยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และหน้าจอทัชสกรีนสำหรับเครื่องเสียงเหมือนที่มีอยู่ใน Hilux Revo
ด้านขุมกำลังของ Toyota Hilue Revo e นั้นด้วยความที่ยังเป็นรถต้นแบบก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตอนออกสู่ตลาด แต่ในตอนนี้จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่กับโครงสร้างแชสชีส์ด้านหลังรถ ส่วนแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ที่ถูกติดตั้งบริเวณใต้แชสชีส์ช่วงกึ่งกลางลำตัวรถ โดยจะสามารถวิ่งได้ระยะทาง 300 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง (โดยจะเป็นรถเปล่า+คนขับเท่านั้น) ส่วนการชาร์จจะรองรับการชาร์จแบบ CCS2 กระแสตรง DC และกระแสสลับ Type 2 นอกจากนี้ยังได้มีการปรับระบบกันสะเทือนด้านหลังให้เหมาะสมกับตัวรถ
คันต่อมาเป็น Toyota Hilux FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle ที่นำ Toyota Hilux ที่เป็นโฉม Double Cab ที่มีมิติตัวถังอยู่ที่ ยาว 5,325 มม., กว้าง 1,900 มม. และสูง 1,815 มม. มาปรับเปลี่ยนใช้พลังขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน โดยภายนอกจะถูกออกแบบกระจังหน้าให้มีความต่างจาก Toyota Hilux Revo e โดยด้านบนจะมาช่องระบายอากาศ (แนวนอน) 3 ช่อง บริเวณด้านล่างยังมีช่องขนาดใหญ่ ที่มีการออกแบบสอดรับกับกันชนหน้าที่ออกแบบขึ้นใหม่
ส่วนภายในห้องโดยสารมีความต่างจากรุ่นมาตรฐานที่เห็นได้ชัดคือ คันเกียร์ที่ใช้ดีไซน์คล้าย Prius เพื่อรองรับดีไซน์เกียร์ใหม่ จึงต้องปรับดีไซน์ของฐานคันเกียร์ และยังมีปุ่มเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake Hold และปุ่ม Eco และ Power ติดตั้งไว้ด้วย (ในตำแหน่งเดิม) ส่วนมาตรวัด ถูกปรับให้แสดงความเร็ว และปริมาณเชื้อเพลิง Hydrogen ที่เหลืออยู่
ส่วนขุมพลังของ Toyota Hilux FCEV นั้นนำเทคโนโลยีมาจากรุ่น Mirai โดยติดตั้งมอเตอร์ไว้ที่ล้อคู่หลัง คล้าย ๆ กันกับที่มีอยู่ใน Toyota Hilue Revo e ส่วนถังเชื้อเพลิง Hydrogen นั้นถูกติดตั้งไว้ 3 ถัง (ความจุรวม 7 ลิตร) ส่วน Fuel Cell Stack อยู่ที่ด้านหน้าของเฟรมตัวรถ เมื่อเติม Hydrogen เข้าไปในถัง ตัวรถจะนำ Hydrogen ไปทำปฏิกิริยากับ Fuel Cell Stack ให้เกิดเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้มอเตอร์ดึงไปใช้หมุนล้อขับเคลื่อน ดังนั้นเมื่อเติม Hydrogen เต็ม 1 ครั้ง รถคันนี้จะสามารถวิ่งได้ถึง 600 กม. และยังสามารถรองรับการบรรทุกได้มากถึง 1,500 กก. ซึ่งมีข้อดีกว่ารถ BEV อยู่ที่ไม่ต้องรอการชาร์จไฟ เพราะสามารถเติม Hydrogen ได้ในเวลาสั้น ๆ ทั้งยังไม่มีไอเสีย
คันสุดท้ายเป็น Toyota Hilux Diesel HEV ที่นำระบบ Diesel Hybrid มาอยู่ในรถ Toyota Hilux และแน่นอนรถคันนี้ยังเป็นรถต้นแบบ เพื่อให้เป็นยานยนต์ที่ลดมลพิษและใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัดคุ้มค่า โดยจะมากับมิติตัวถังอยู่ที่ ยาว 5,325 มม., กว้าง 1,900 มม. และ สูง 1,815 มม. ด้วยความที่เป็นรถต้นแบบทำให้ดีไซน์ดูไม่แตกต่างกันกับ Toyota Hilux Revo Double Cab ที่มีจำหน่ายอยู่เลย
ด้านภายในห้องโดยสาร ดูจะแตกต่างกับ Toyota Hilux Revo E และ Toyota Hilux FCEV ก็คือมีการนำพวงมาลัย, คันเกียร์ จากรุ่น Land Cruiser มาใช้ ส่วนมาตรวัดเป็นจอ LED Multi Information คล้าย Corolla Altis GR Sport แต่ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคตเนื่องจากรถคันนี้เป็นต้นแบบ หรือไม่ก็อาจจะเห็นพวงมาลัย, คันเกียร์ แบบนี้ใน Toyota Hilux รุ่นใหม่ก็ได้
ส่วนขุมพลังของ Toyota Hilux Diesel HEV นั้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดที่ใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซล ผสานการทำงานกับระบบไฮบริด (HEV) ที่มีมอเตอร์ Generator เข้ามาช่วยในจังหวะ สตาร์ท, ออกตัว และช่วงเร่งแซง โดยถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าเครื่องยนต์ ด้านเกียร์อัตโนมัติจะเป็นแบบ 8 จังหวะ ที่ทำให้มีความต่อเนื่องของอัตราเร่งได้ดีกว่าเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยสามารถทำระยะทางวิ่งได้ต่อการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้งได้ไกลมากถึง 1,200 กม. และยังสามารถรองรับการบรรทุกได้มากถึง 3,500 กก.
ด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จะอยู่ใน Toyota Hilux Revo E, Toyota Hilux FCEV และ Toyota Hilux Diesel HEV นั้นคงจะมีพื้นฐานมาจาก ระบบที่มีอยู่ในรถ Toyota Hilux หรืออาจจะมีการใส่เพิ่มเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้าไปเมื่อถึงเวลาเปิดจำหน่ายอีกครั้ง เพราะทั้ง 3 รุ่นนี้ยังเป็นเพียงรถยนต์ต้นแบบ แต่คาดว่า Toyota Hilux Revo E จะเป็นรุ่นแรกที่ออกมาทำตลาดก่อน ตามมาด้วย Toyota Hilux FCEV และ Toyota Hilux Diesel HEV ในที่สุด
แต่สำหรับคนที่ไม่อยากรอและสนใจจะเป็นเจ้าของ Toyota Hilux Revo รุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ก็สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว