Mitsubishi เปิดตัวรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมระบบฟูลไฮบริดใน Xpander HEV และ Xpander Cross HEV ประกาศราคาเท่ารุ่นเครื่องยนต์เดิม เริ่มต้นที่ 912,000 บาท ถึง 7 เม.ย. นี้

Mitsubishi จัดงานเปิดตัวแบบ World Premiere สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มากับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ทั้ง Xpander HEV และ Xpander Cross HEV ที่เป็นรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่ง และมั่นใจในทุกเส้นทางแบบ Mitsubishi e:MOTION พร้อมที่จะเดินหน้ารุกตลาดและเริ่มจำหน่ายในไทยทันที โดยจะมีราคาพิเศษช่วงแนะนำ ตั้งแต่วันนี้ - 7 เม.ย. 2567 และ ข้อเสนอสุดพิเศษ Mitsubishi XTRA Care เพื่อให้ลูกค้าครอบครอง และขับขี่รถทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้โดยไม่ต้องกังวล โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย (รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย)

Xpander ทั้ง 2 รุ่น ที่ที่มากับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดทั้ง Xpander HEV และ Xpander Cross HEV จะมากับขนาดมิติตัวถังอยู่ที่ ยาว 4,595 มม., กว้าง 1,750 มม. และสูง 1,750 มม. โดดเด่นด้วยโลโก้ HEV ที่กระจังหน้า

และฝาประตูท้าย พร้อมด้วยโลโก้ HYBRID EV ที่ประตูหน้า และยังมีการตกแต่งด้วยเส้นสายสีน้ำเงินที่กันชนหน้า, กาบข้างประตู ,กันชนหลัง

และล้ออัลลอยแบบทูโทน Machine Finished ตกแต่งด้วยแถบสีฟ้า ขนาด 17 นิ้ว กับยางขนาด 205/55 R17 ส่วนไฟหน้าจะเป็น LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED Position Light และ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอก(หน้า)แบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED เขยิบมาที่สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ด้าน Xpander Cross HEV จะเพิ่มกระจังหน้า, กันชนหน้า-หลัง, แผงตกแต่งข้างประตู, ซุ้มล้อแบบ Cross Design และ ราวหลังคา ส่วนสีตัวถัง จะมี สีขาว White Diamond, สีเงิน Blade Silver, สีเทา Graphite Gray และสีดำ Jet Black Mica รวมถึงสีเขียว Green Bronze ที่เป็นสีพิเศษเฉพาะของรุ่น Xpander Cross HEV

ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยสีภายในแบบทูโทน ดำ/น้ำตาล สำหรับ Xpander HEV และ ดำ/น้ำเงิน สำหรับ Xpander Cross HEV โดดเด่นสะดุดตาด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว

เพื่อการแสดงข้อมูลที่หลากหลายและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยจะแสดงข้อมูลสำคัญ อาทิ แสดงรูปแบบการขับขี่ที่จะเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์การขับขี่และอัตราเร่ง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน อัตราการประหยัดพลังงานเมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า, ระดับพลังงานคงเหลือในแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่น ๆ 

ส่วนระบบปรับอากาศจะเป็นหน้าจอแสดงผลดิจิตอล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool, แผงควบคุมแอร์ด้านหลังแบบแยกอิสระ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (บนเพดาน)

ด้านพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันที่หุ้มด้วยหนังที่มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, รับสาย-โทรออก บนพวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมทั้งยังมีเบรกมือไฟฟ้าที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Brake Auto Hold ด้านเบาะนั่งจะเป็นหนังสังเคราะห์พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน 

โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับแบบ 40:60 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับแบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ

สำหรับเครื่องเสียงก็จะมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ Bluetooth, Apple CarPlay, and Android Auto กับลำโพง 6 จุด

เครื่องยนต์ฟูลไฮบริดของ Xpander HEV และ Xpander Cross HEV จะเป็นเครื่องยนต์รหัส 4A92 ที่เป็นเครื่องยนต์  4 สูบ MIVEC DOHC16 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร (1,590 ซีซี) ที่ให้กำลัง 95 แรงม้า และแรงบิด 134 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร 

และแบตเตอรี่ Lithium-ion ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยการต่อยอดจากระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) พร้อมกับมีประสิทธิภาพการเผาไหม้ด้วยการติดตั้งปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นครั้งแรก พร้อมคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า ช่วยเสริมให้อัตราประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์ดีขึ้นกว่าเดิมราวร้อยละ 34 สำหรับการขับขี่ในเมือง และให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นกว่าเดิมราวร้อยละ 15 สำหรับการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง (ตามมาตรฐานการวัดระยะทางรถยนต์ไฟฟ้าแบบ NEDC)

Xpander ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ Active Yaw Control (AYC) ที่ทำงานผสานกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อมอบความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลายซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะการเกาะถนน และช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดายและคล่องตัวในทุกสภาพถนน

ทั้งนี้ ยังสามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่เป็น EV Priority ได้ตามต้องการ และยังมีโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ประกอบด้วย โหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมดและอีก 5 โหมด 

Xpander HEV จะมากับราคา 912,000 บาท ขณะที่ Xpander Cross HEV ราคา 946,000 บาท โดยราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 หลังจากนั้น Xpander HEV จะขยับราคาเป็น 933,000 บาท และ Xpander Cross HEV จะขยับราคาเป็น 961,000 บาท นอกจากนี้ Mitsubishi ยังมอบข้อเสนอพิเศษ XTRA Care เพื่อให้ทุกท่านสามารถครอบครองและขับขี่รถทั้งสองรุ่นใหม่นี้โดยไม่ต้องกังวล ได้แก่

• การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

• แพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี

• ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็คระยะตลอด 5 ปี

• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี

• พร้อมกับประกันภัยชั้น 1 ฟรีหนึ่งปี

• เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด บริษัทฯ จึงขยายการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฮบริด ยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

• และขยายการรับประกันพิเศษสำหรับแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริดในปีที่ 6-10 โดยไม่จำกัดระยะทาง

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอสุดพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% สำหรับการดาวน์ 25% และผ่อนนาน 48 เดือน

ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อนที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<