New Isuzu D-MAX เปิดตัวพร้อมนิยาม "เหนือลิมิต…พิชิตโลก" พร้อมรุกตลาดแบบจัดเต็มทุกไลน์อัพ

นำโดย V-CROSS 4X4 ที่ปลดล็อกนิยามใหม่ของปิกอัพระดับ Top Class และ HI-LANDER 2 ประตู ที่มากับศักยภาพใหม่ ไปได้ไกลกว่า รวมถึงรุ่น CAB 4, SPACECAB และ SPARK ที่มากับสมรรถนะ, ความทนทาน และประหยัดน้ำมัน

สำหรับ New D-MAX มากับดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก มาพร้อมสีใหม่ Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า) โดยได้มีการปรับด้านหน้าใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรง, กันชนหน้า พร้อมออกแบบ Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ พร้อมฝาท้าย และชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในเพิ่มความโดดเด่นด้วย Miura Design (มิอุระ ดีไซน์) ที่ช่วยให้ดูหรูหรามีมิติ เพิ่มการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วย Paddle Shift ทั้งยังมีหน้าจอ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบ Multitasking System สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID ใหม่ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งแสดงผลได้หลายฟังก์ชัน และยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางด้วย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยการเพิ่ม ระบบ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่กว้างขึ้นและแม่นยำขึ้น พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย ด้วยราคาคุ้มค่าเงิน ตั้งแต่ 540,000 – 1,254,000 บาท

New D-MAX V-CROSS 4X4

ยังคงความแข็งแกร่ง พร้อมกับสีใหม่ สีส้ม Namibu Orange Mica พร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่สะกดทุกสายตา ตั้งแต่ฝากระโปรง, สเกิร์ตด้านล่าง, ชุดแต่ง ISUZU V-Cross Package รวมถึงฝาท้าย และชุดไฟท้าย ที่ช่วยสะท้อนความเป็นพรีเมียมสปอร์ตออฟโรดด้วย เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้กำลังถึง 190 แรงม้า โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 917,000 – 1,264,000 บาท

โดยภายนอกจะมีส่วนที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ได้แก่ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วย Isuzu Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ที่ทำหน้าเป็นทั้ง Daylight, ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว

นอกจากนี้ยังมีกระจังหน้าแบบ 3-Dimension สีเทาดำ และ Black Chrome, Air Curtain ที่กันชนหน้า นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ ตามแบบรถสปอร์ตหรู

ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED และ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Rugged & Wild สี Matte Black

ส่วนภายในของ V-CROSS 4X4 นอกจากห้องโดยสารสไตล์พรีเมียมแบบ Miura Design ตกแต่งด้วยสีทูโทน ดำ-น้ำตาล และเบาะดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งคนขับ, Charging Socket แบบ USB-C ที่ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วขึ้น สำหรับที่นั่งด้านหน้า-หลัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ที่ควบคุมอุณหภูมิอิสระแยกซ้าย-ขวา พร้อมกรองฝุ่นได้ถึงระดับ PM 2.5

หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay, หน้าจอแบบ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน

และใหม่ล่าสุด! ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB, ระบบ Rough Terrain Mode ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้ง 2 และ 4 ล้อ ด้วยการควบคุมการกระจายกำลังทุกช่วงความเร็ว, ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

New D-MAX HI-LANDER 4 ประตู

ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพ ระดับ TOP CLASS ที่ผสมผสานความหรูหราอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น มากับสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้ กำลัง 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 865,000 – 1,151,000 บาท

ภายนอกจะมากับ ไฟหน้าดีไซน์เอกลักษณ์ใหม่แห่งความโฉบเฉี่ยว ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight, กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey, Air Curtain ที่กันชนหน้า, ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED และ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Turbine Spiral

ภายในเช่นเดียวกับ V-CROSS 4X4 ก็คือการใช้ Miura Design แต่รุ่นนี้จะเน้นความพรีเมียมด้วยการใช้โทนสีดำเงิน เสริมด้วยหน้าจอ Integrated MID ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ 2 สไตล์ เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Infotainment Display สะดวกยิ่งขึ้น และยังเสริมด้วย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน กับ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB

New D-MAX HI-LANDER 2 ประตู

เป็นรถปิกอัพ 2 ประตู ที่ออกแบบให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ผสานสมรรถนะความทนทาน และความประหยัดน้ำมันขั้นสุด ด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้กำลัง 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 ให้กำลัง 150 แรงม้า โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 758,000 – 935,000 บาท ส่วนในรุ่นนี้ยังคงมากับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight, กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey, Air Curtain, ไฟท้าย Triple-Armour LED และ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Turbine Spiral

ส่วนภายในเช่นเคยในรุ่นนี้ เน้นพรีเมียม ตามแนวคิด High-Class & Sophisticated ในโทนสีดำเงิน และระบบต่างคล้ายรุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Integrated MID ขนาด 7 นิ้ว, เบาะดีไซน์ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี COOLMAX, Charging Socket แบบ USB-C, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone, หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว, หน้าจอแบบ Multitasking System ที่เชื่อมต่อข้อมูลกับ หน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน, ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง แบบ Dynamic Surround Sound และ กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide

New D-MAX CAB4

ในรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่มีกำลัง 150 แรงม้า และราคาจำหน่ายตั้งแต่ 731,000 – 882,000 บาท พร้อมไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight, กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey, Air Curtain ที่กันชนหน้า, ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED และ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว

ส่วนภายในจะเป็นห้องโดยสารที่ถูกออกแบบสำหรับการใช้งานที่หลากหลายสะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design โดดเด่นด้วย Miura Design กับ เบาะผ้าดีไซน์ใหม่ และ หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay

New D-MAX SPACECAB

เป็นรถเพื่อการพาณิชย์โดยแท้จริงเพราะไปได้ไกลกว่า และยังออกแบบให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ผสานสมรรถนะความทนทาน และความประหยัดน้ำมัน จากเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลัง 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 กำลัง 150 แรงม้า โดยในรุ่นนี้จะมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 650,000 – 760,000 บาท

ภายนอกจะมากับกระจังหน้าแบบ 3-Dimension พร้อมสี Silky Silver และ Dark Grey กับไฟหน้าแบบ ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight, Air Curtain ที่กันชนหน้า,ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED และ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว

ส่วนภายในพร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลายสะดวกสบาย, หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 นิ้ว, เบาะผ้าดีไซน์ใหม่ และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide

New D-MAX SPARK

พร้อมลุยทุกงานบรรทุกหนัก โดยการออกแบบโดยผสานการทำงานของโครงสร้างตัวถังแชสชีส์ เครื่องยนต์ และช่วงล่าง ให้ทำงานร่วมกัน พร้อมลุยในทุกสภาพถนน พร้อมความประหยัดน้ำมันขั้นสุด ด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 150 แรงม้า โดยในรุ่นนี้จะมีมาให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และแบบ 4x4 ซึ่งได้เพิ่มระบบ Rough Terrain Mode มาในรุ่น 4x4 โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 540,000 – 727,000 บาท ภายนอกมากับ ดีไซน์ใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า กระจังหน้า และไฟหน้า และ กระบะท้ายกว้างขวางพร้อมรับทุกงานหนัก และภายในที่เน้นความสะดวกสบาย สำหรับการบรรทุกหนัก, ไกล ก็ขับสบายตลอดเส้นทาง, หน้าจอ Infotainment Display ขนาด 8 นิ้ว, เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับอิสระ, กระจกไฟฟ้า, ตำแหน่งวางแก้ว 2 จุด พร้อมช่องในขวดน้ำ 1.5 ลิตร ข้างประตู, ช่องเก็บของอเนกประสงค์ และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide

พบกับ New Isuzu D-MAX "เหนือลิมิต...พิชิตโลก" ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็น V-CROSS 4X4, HI-LANDER 4-2 ประตู, CAB 4, SPACECAB และ SPARK สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<