Volvo EX90 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดตัวแล้วเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำตลาดด้วย 3 รุ่นย่อย ในราคา 4,290,000-4,890,000 บาท

     ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Volvo EX90 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโอกาสเปิดตัวรถรุ่นนี้ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีระดับพรีเมียม ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นปฐมบทใหม่ของรถยนต์ Volvo

     ที่ยกระดับขึ้นมาทั้งในแง่ของความปลอดภัย และความยั่งยืน โดยจะลงสู่ตลาดรถยนต์ไทย 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย รุ่น Plus Twin Motor 7 Seats, รุ่น Ultra Twin Performance 6 Seats และ รุ่น Ultra Twin Performance 7 Seats พร้อมราคา 4,290,000-4,890,000 บาท

     Volvo EX90 ในทุกรุ่นย่อยนั้นจะมากับ Twin Motor ให้กำลังระหว่าง 300-380 กิโลวัตต์ (400-517 แรงม้า) และแรงบิด 770-910 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NMC ที่มีความจุ 111 กิโลวัตต์ ทำให้รถรุ่นนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน 4.9 วินาที (Twin Performance Motor) กับ 5.9 วินาที (Twin Motor) และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง และด้วยแพลตฟอร์มของตัวรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้มีระยะทางการขับขี่ได้ถึง 745 กิโลเมตร/การชาร์จเพียง 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) 

     ตัวรถรองรับการชาร์จด้วย HOME CHARGING TYPE2 (AC) SOC 0-100% ใน 15 ชั่วโมง (1-Phase 7.4 กิโลวัตต์/32 แอมป์)และ 3-Phase (11กิโลวัตต์/16 แอมป์) ใน 10 ชั่วโมง และ PUBLIC CHARGING  TYPE2 (AC) / CCS2 (DC)  SOC 10-80% ด้วยไฟ 50 กิโลวัตต์ ใน 92 นาที, 150 กิโลวัตต์ ใน 35 นาที และ 250 กิโลวัตต์ ใน 30 นาที

     การออกแบบของ Volvo EX90 ยังคงใช้ปรัชญาการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย ด้วยขนาดตัวถังที่มีความยาว 5,037 มิลลิเมตร กับกว้าง 1,964 มิลลิเมตร และความสูงที่ 1,744 มิลลิเมตร ส่วนตัวถังมาด้วยขนาดที่นั่งที่สามารถรองรับ 6-7 ที่นั่ง และเส้นสายที่เรียบคม 

     โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์ Thor’s hammer เจนเนอเรชันใหม่ที่เป็นแบบ LED พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติในรุ่น Twin Motor ส่วนรุ่น Twin Performance จะเป็น High-Definition Pixel Headlights และไฟท้าย LED ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว, หลังคาพาโนรามิกซันรูฟที่ป้องกันรังสี UV

     มือจับประตูแบบซ่อน ส่วนล้อในรุ่น Twin Motor จะได้ขนาด 20 นิ้วกับยาง 225/50R20 ส่วนรุ่น Twin Performance จะได้ขนาด 21 นิ้วกับยาง 265/45R21 เช่นเดียวกันกับระบบช่วงล่างที่รุ่น Twin Performance จะได้แบบถุงลม

     ด้านดีไซน์ภายในของ Volvo EX90 ก็จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องนั่งเล่นสไตล์สแกนดิเนเวีย เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะปรับไฟฟ้าพร้อมบันทึกความจำที่ตำแหน่งคนขับ โดยตัวเบาะถูกผลิตขึ้นจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล และโพลิเมอร์จากแหล่งวัสดุชีวภาพในป่าสวีเดนและฟินแลนด์ ตรงแผงแดชบอร์ด และประตูประดับด้วยไม้ที่ได้รับรองว่ามาจากแหล่งกำเนิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวเบาะถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

     ส่วนพื้นที่เก็บของด้านหลังจะมีขนาด 384 ลิตร เมื่อปรับที่นั่งของผู้โดยสารแถว 3 นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของใต้ที่เก็บของด้านหลังขนาด 72 ลิตร และช่องเก็บของด้านหน้าขนาด 46 ลิตร

     ส่วนระบบเครื่องเสียง Volvo EX90 จะได้หน้าจอขนาด 9 นิ้ว กับหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.5 นิ้ว, ดิจิทัลเซอร์วิสที่รวบรวมฟีเจอร์อาทิ บริการต่าง ๆ จาก Google Apps และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย ที่จะพร้อมให้บริการในอนาคต, Volvo Cars App, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยสัญญาณบลูทูธ

     เครื่องเสียง Bose Premium Sound (แอมปลิไฟเออร์ 940 วัตต์ พร้อมลำโพง 14 ตัว) ในรุ่น Twin Motor ส่วนรุ่น Twin Performance จะได้เครื่องเสียง Premium Sound by Bowers & Wilkins with 3D sound (แอมปลิไฟเออร์ 1,610 วัตต์ พร้อมลำโพงไฮไฟ 25 ตัว รวมซับวูฟเฟอร์) สะท้อนนิยามของความพรีเมียมในบริบทของ Volvo ที่รวมเอานวัตกรรม คุณภาพ และความยั่งยืน เข้ามาผสานกันได้อย่างลงตัว

     Volvo EX90 นำเสนอมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ผ่านชุด Sensor และเทคโนโลยีช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของ Sensor Lidar, กล้อง, เรดาห์ และเซนเซอร์แบบอัลตร้าโซนิค ที่ติดตั้งอยู่รอบตัวรถเพื่อให้มุมมองแบบ 360 องศา ภายในตัวรถมาพร้อม Sensor อินฟาเรดที่คอยมอนิเตอร์การมอง และท่าทางของผู้ขับว่ามีความพร้อมหรือไม่ โดยหากพบว่าผู้ขับไม่อยู่ในสภาวะที่สามารถขับรถได้เช่น ขาดสมาธิ หรือเผลอหลับ ระบบช่วยเหลือเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยจะทำหน้าที่เพื่อเบรกหรือจอดรถอย่างปลอดภัยโดยอัตโนมัติ

     ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Safe Space Technology ที่ Volvo ออกแบบขึ้นเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้รถทั้งต่อผู้ขับ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนร่วมกัน รวมถึงควบคุมการสั่งงาน และฟีเจอร์ต่าง ๆ ในรถด้วยเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำ

     อาทิ ชิปอเนกประสงค์ NVIDIA DRIVE Orin system-on-a-chip (SoC) จาก NVIDIA, พร้อมแพลตฟอร์ม Snapdragon Cockpit Platform จาก Qualcomm และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยวิศวกรจาก Volvo เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว ให้ประสบการณ์ใช้รถที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถในการอัปเด9ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของตัวรถคล้ายการอัปเดตสมาร์ตโฟนในปัจจุบันผ่านระบบ over-the-air และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณระดับ 5G  

     Volvo EX90 จะมากับสีตัวถัง มากถึง 6 สี ประกอบด้วย สี Crystal White Premium Metallic, สี Onyx Black Metallic, สี Denim Blue Metallic, สี Mulberry Red Metallic, สี Vapour Grey Metallic และ สี Sand Dune กับสีภายใน 3 สี ได้แก่ สี Ventilated Charcoal Nordico in Charcoal interior, สี Ventilated Dawn Nordico in Dawn interior และ สี Cardamom Quilted Nordico in Charcoal/Cardamom interior โดย Volvo EX90 มี 3 รุ่นย่อย ให้เลือกดังนี้

• รุ่น Plus Twin Motor 7 seats ราคา 4,290,000 บาท

• รุ่น Ultra Twin Performance 6 seats ราคา 4,890,000 บาท

• รุ่น Ultra Twin Performance 7 seats ราคา 4,890,000 บาท

     ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ Volvo EX90 ไม่ว่าจะรุ่นย่อยไหนก็ตาม สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<