รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ประกาศถึงการเปลี่ยนชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่ จาก Volvo C40 Recharge เป็น Volvo EC40 และ Volvo XC40 Recharge เป็น Volvo EX40 ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเพื่อสร้างความชัดเจนให้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าจากวอลโว่ และสอดคล้องกับรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Volvo EX30 นอกจากนี้ ยังได้ยุติการใช้คำว่า Recharge ในชื่อผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นรวมถึงรถปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษ Black Edition
Volvo EC40
โดย Volvo EC40 จะมี 2 รุ่น คือรุ่น Ultra Single Motor และรุ่น Ultra Twin Motor โดยรุ่นที่เป็น Single Motor นั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว โดยขับเคลื่อนล้อหลัง กับแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NCM ที่มีความจุ 69 กิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยจะให้กำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์ (238 แรงม้า) แรงบิด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 7.3 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กิโลเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 590 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ส่วนรุ่นที่เป็น Ultra Twin Motor นั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (Dual motor) โดยขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive กับแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NCM ที่มีความจุ 82 กิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยจะให้กำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ (408 แรงม้า) แรงบิด 670 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.7 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กิโลเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 650 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
Volvo EX40
ส่วน Volvo EX40 ก็จะมีทางเลือก 2 รุ่น คือรุ่น Ultra Single Motor และรุ่น Ultra Twin Motor เหมือนอย่างรุ่น EC40 โดยรุ่นที่เป็น Single Motor นั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว โดยขับเคลื่อนล้อหลัง กับแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NCM ที่มีความจุ 69 กิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยจะให้กำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์ (238 แรงม้า) แรงบิด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 7.3 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กิโลเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 565 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ส่วนรุ่นที่เป็น Ultra Twin Motor นั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (Dual motor) โดยขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive กับแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NCM ที่มีความจุ 82 กิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยจะให้กำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ (408 แรงม้า) แรงบิด 670 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.8 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กิโลเมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 645 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
Volvo EC40
การออกแบบภายนอกของ Volvo EC40 จะโดดเด่นด้วยเส้นหลังคาแบบ Slimmed Crossover Roof Line ที่ออกแบบมาให้รับกับทรงท้ายลาดต่ำตามสไตล์รถครอสโอเวอร์ คูเป้ ดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
ส่วนกระจังหน้าเป็นแบบปิดสีเดียวกับตัวรถ โดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์แบรนด์ Volvo ที่ดูเรียบหรู มินิมอล สไตล์สแกนดิเนเวียน กับหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเคลือบลามิเนตให้การปกป้องห้องโดยสารจากแสงสะท้อนและรังสี UV จากภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตัวหลังคายังช่วยให้บรรยากาศภายในห้องโดยมีความโปร่งสบาย ให้แสงที่เป็นธรรมชาติ
ไฟหน้ามาพร้อมเทคโนโลยี Pixel ที่ประกอบด้วยไฟ LED 84 ดวงที่ทำงานแยกกันอย่างอิสระ และปรับแสงได้อย่างเหมาะสมอัตโนมัติตามสภาวะแสงภายนอกโดยใช้กล้องหน้าในการตรวจจับ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับจะมีแสงสว่างที่เพียงพอเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย และแสงไฟจากหน้ารถไม่แยงตาผู้ขับที่สวนทางมา
กับไฟท้าย LED และมี Welcome light เมื่อกดปลดล็อกรถเพื่อต้อนรับผู้ขับ ส่วนล้อแม็กอัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ Diamond-Cut ที่ก้านแม็กทั้งห้าทำขึ้นจากอะลูมิเนียมขัดมันตัดกับแกนล้อสีดำไฮกลอส เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับดีไซน์ของตัวรถ
นอกจากนี้ตัวล้อยังถูกออกแบบตามหลักแอโรไดนามิก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้พลังการขับ ส่วนหลังคาสีดำตัดกับสีของตัวรถให้อัตลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สะดุดตาในทุก ๆ มุมมอง
ไม่เพียงรูปทรงของตัวรถในสไตล์ ครอสโอเวอร์ ที่ช่วยลดแรงลมปะทะได้เป็นอย่างดี Volvo EC40 ยังมาพร้อมสปอยเลอร์หลังที่โครงหลังคาท้ายทั้งสองข้าง และที่ฝาท้าย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับ ช่วยให้รถมีความปราดเปรียว ลู่ลม ให้ระยะทางการขับที่ไกลขึ้น ทั้งแรงกดจากสปอย์เลอร์ที่ฝาท้ายยังช่วยในแง่ของการทรงตัว และการยึดเกาะถนน
ส่วนการออกแบบภายในของ Volvo EC40 นั้นจะมากับแผงคอนโซลหน้าและประตูด้านข้างแถวหน้าดีไซน์ Topography Translucent Decor ที่ลายเส้นได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาอบิสโก (Abisko) ในแถบตอนเหนือของประเทศสวีเดน โดยตัวดีไซน์ประกอบด้วยลายเส้น พื้นผิวสะท้อนแสง และดวงไฟที่ซ้อนกันถึง 3 เลเยอร์ จึงทำให้เกิดมุมมองสามมิติบนผิวสัมผัสที่เรืองแสงเพิ่มความโดดเด่นให้ห้องโดยสาร
โดย Volvo EC40 ถูกออกแบบให้ปราศจากการใช้หนังสัตว์ 100% โดยแทนที่ด้วยวัสดุสังเคราห์ และวัสดุรีไซเคิลเพื่อเป็นส่วนประกอบของเบาะ พวงมาลัย เกียร์ และพรม ให้ความสวยงาม หรูหรา และทนทาน นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งภายใน และเบาะที่มีให้คุณเลือกถึง 2 สไตล์ ได้แก่
Charcoal Connect Suede Textile/ Microtech in Charcoal Interior ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุผ้า หนัง Suede มีส่วนผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ รีไซเคิล สีดำ Charcoal โทนสีภายในของตัวรถเป็นสีดำ Charcoal มาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่ง Topography เรืองแสง
Charcoal Fusion Microtech/ Textile in Charcoal Interior ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุผ้านิ่ม Fusion Microtech ผสานกับการเดินเส้นที่มีลวดลายเสมือนงานสามมิติ โทนสีดำ Charcoal สีภายในของตัวรถเป็นสีดำ Charcoal มาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่งสไตล์ Topography เรืองแสง
พวงมาลัยสีดำ Charcoal แบบสปอร์ตสามก้าน ออกแบบมาโดยเฉพาะ จับกระชับมือช่วยเสริมความมั่นใจให้ทุกการขับ ตัวพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์และเดินเส้นเก็บรายละเอียดด้วยมือให้สัมผัสที่เรียบหรู ปราณีต ระบบเสียงคุณภาพสูงที่ให้พลังเสียงอันทรงพลังสูงสุดถึง 600 วัตต์ ผ่านลำโพง 13 ตัว จากแบรนด์เครื่องเสียงระดับคุณภาพ Harman Kardon พร้อมกับซับวูฟเฟอร์ ระบบทำความเย็นในห้องโดยสารมาพร้อมระบบฟอกอากาศจึงช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันตรายเข้าสู่ห้องโดยสารได้สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์
อีกทั้งคุณยังสามารถตรวจสอบระดับของฝุ่น หรือคุณภาพอากาศในห้องโดยสารได้ตั้งแต่ที่คุณอยู่นอกรถ ผ่านวอลโว่ คาร์ส แอปพลิเคชัน พื้นที่บรรทุกสัมภาระเพื่อจัดเก็บสิ่งของด้านท้ายรถขนาด 404 ลิตร เพียงพอที่จะบรรทุกกระเป๋าเดินทางสองใบ และเมื่อปรับเบาะด้านหลังที่พับราบได้แบบ 60/40 จะให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 1,196 ลิตร ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าขนาดความจุ 31 ลิตร มอบพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมสำหรับจัดเก็บสายชาร์จของคุณให้หยิบใช้ได้ง่าย ปกป้องสิ่งสกปรก ฝุ่น และความชื้น อีกทั้งยังไม่ต้องรบกวนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังอีกด้วย
ส่วนการเชื่อมต่อและความบันเทิงใน Volvo EC40 จะมากับหน้าจอด้านหน้าผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูงให้ความคมชัด โดยรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับ อาทิ ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ความเร็ว การแจ้งเตือนต่าง ๆ แผนที่เส้นทางเมื่อใช้ GPS ในการนำทาง หน้าจอจัดวางในตำแหน่งตรงหน้าผู้ขับเพื่อความสะดวกในการมองเห็น สามารถใช้งานได้ถึง 2 มุมมอง คือ Calm และ Navi กับจอขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัสในตำแหน่งกึ่งกลางคอนโซลหน้ารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถ ฟังก์ชันควบคุม ระบบสาระบันเทิง Infotainment เพื่อการใช้งานที่สะดวกทั้งสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร
ซึ่งถูกจัดวางโดยคำนึงถึงการใช้งานที่ง่ายเป็นสำคัญ ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้ทุกการเดินทางด้วยบริการจาก Google Services ผ่านจอดิสเพลย์เพื่อเรียกใช้งาน Google Maps นำทาง Google Assistant Voice Control และสั่งงานต่าง ๆ เช่นเปิดเพลง ส่งข้อความ ควบคุมระบบปรับอากาศด้วยเสียง Google Assistant เพื่อช่วยค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และบริการอื่น ๆ จาก Google ที่สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Google Play รองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์ของรถด้วยระบบ Over-the-Air และรองรับการใช้งาน วอลโว่ คาร์ส แอปพลิเคชัน บนสมาร์ตโฟน
ระบบความปลอดภัยใน Volvo EC40 นั้นถูกพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้ผู้ขับตั้งแต่เข้ารถโดยเพียงแค่ผู้ขับมีกุญแจอยู่กับตัวในระยะ 6 เมตรที่ผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ ไฟภายในบางส่วนของตัวรถจะสว่างขึ้นอัตโนมัติเพื่อต้อนรับผู้ขับ
อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเนื่องจากผู้ขับสามารถมองเห็นภายในตัวรถได้ เมื่อผู้ขับลงนั่งในรถและปิดประตู เครื่องเสียงและแอร์จะเริ่มทำงานอัตโนมัติ หน้าจอตรงกลางเข้าสู่โหมดพร้อม โดยตัวรถ Volvo EC40 จะไม่มีปุ่มสตาร์ต เมื่อผู้ขับนั่งในรถและพร้อมที่จะออกเดินทาง เพียงแค่เหยียบเบรกและเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังรถก็จะสตาร์ตและพร้อมออกตัวในทันที เมื่อรถจอดและผู้ขับกดปุ่ม Parking Brake ปลดเข็มขัดนิรภัย เครื่องจะยังไม่ดับจนกว่าผู้ขับจะลุกออกจากรถ
นอกจากนี้ยังเปิดและปิดฝากระโปรงท้ายโดยไม่ต้องกดเปิดด้วย Power-Operated Tailgate ที่ทำงานด้วยเซนเซอร์ใต้รถในตำแหน่งซ้าย เพียงแค่ผู้ใช้เตะเท้าข้างไปในตำแหน่งที่มีเซนเซอร์ ฝากระโปรงท้ายก็จะสามารถเปิด หรือ ปิดได้โดยไม่ต้องใช้มือกด นอกจากนี้ก็ยังมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่เป็นตัวช่วยเพื่อป้องกัน และปกป้องผู้ขับ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนร่วมอีกหลายรายการ อาทิ
Volvo EX40
การออกแบบภายนอกของ Volvo EX40 ก็จะมากับกระจังหน้าแบบปิดสีเดียวกับตัวรถ ที่จะมีโลโก้ตราสัญลักษณ์ วอลโว่ เหมือน Volvo EC40 ด้านกันชนท้ายสีดำแบบไฮกลอสตัดกับทรงท้ายของตัวรถ และเฉดสีให้มุมมองที่โดดเด่น เรียบหรู สะอาดตา และแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายความสปอร์ตกับหลังคาสีดำตัดกับสีของตัวรถให้ความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ทั้งยังช่วยเสริมความไดนามิคทางด้านการออกแบบให้ตัวรถ
ส่วนล้อแม็กอัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ Diamond-Cut ที่ก้านแม็กทั้งห้าทำขึ้นจากอะลูมิเนียมขัดมันตัดกับแกนล้อสีดำไฮกลอส เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับดีไซน์ของตัวรถ
ภายในของ Volvo EX40 นั้นจะมากับการออกแบบสไตล์ Charcoal Fusion Microtech/ Textile in Charcoal Interior โดยที่นั่งโดยสารภายในสำหรับ 5 ที่นั่ง ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุผ้านิ่ม Fusion Microtech ผสานกับการเดินเส้นที่มีลวดลายเสมือนงานสามมิติ โทนสีดำ Charcoal สีภายในของตัวรถเป็นสีดำ Charcoal มาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่งสไตล์ Topography เรืองแสง
กับพวงมาลัยสีดำ Charcoal แบบสปอร์ตสามก้าน ออกแบบมาโดยเฉพาะ จับกระชับมือช่วยเสริมความมั่นใจให้ทุกการขับ ตัวพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ และเดินเส้นเก็บรายละเอียดด้วยมือให้สัมผัสที่เรียบหรู ประณีต การตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและประตูด้านข้างแถวหน้าในดีไซน์ Topography Translucent Decor ที่ลายเส้นได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาอบิสโก (Abisko) และไม่ใช้หนังสัตว์ 100% โดยแทนที่ด้วยวัสดุสังเคราะห์ และวัสดุรีไซเคิล นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงคุณภาพสูง จากแบรนด์ Harman Kardon ระบบทำความเย็นในห้องโดยสารมาพร้อมระบบฟอกอากาศเหมือนอย่าง Volvo EC40
แต่พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายรถจะให้พื้นที่มากกว่า Volvo EC 40 โดย Volvo EX40 นั้นจะมากับขนาด 410 ลิตร และเมื่อปรับเบาะด้านหลังที่พับราบได้แบบ 60/40 ให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 1,286 ลิตร และยังมีช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าที่มีขนาดความจุ 31 ลิตร ส่วนการเชื่อมต่อและความบันเทิง ระบบความปลอดภัยใน Volvo EX40 ก็จะได้ไม่แตกต่างกับ Volvo EC40
Volvo EX40 Black Edition
Volvo EC40 Black Edition จะมอบความโดดเด่นในทุกเส้นทางของชีวิต กับรถไฟฟ้าสไตล์ Crossover ที่ทุกการใช้งานมาพร้อมความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยม เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และพื้นที่การใช้งานและจัดเก็บที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ทุกมุมที่คุณเป็น
ส่วน Volvo EX40 Black Edition จะมากับดีไซน์รถที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกมุมที่คุณเป็นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมนำเสนอความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และประสิทธิภาพในการใช้งานของรถสไตล์ SUV ด้วยการตกแต่งด้วยสีภายนอกคือ สีดำ Onyx Black องค์ประกอบการตกแต่งอื่น ๆ
อาทิ โลโก้ Volvo ที่กระจังหน้า ตัวอักษรวอลโว่ที่ด้านหลัง ป้ายชื่อรุ่น และล้อแม็กซ์อัลลอย์ขนาด 20 นิ้วดีไซน์ 5 ก้าน ล้วนมาในสีดำไฮกรอส
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเข้มรับกับสีตัวรถด้านนอก อาทิ พวงมาลัยแบบสปอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อการจับที่ถนัดมือ เพดานหลังคาภายใน และการตกแต่งภายในมาในโทนสีดำ Charcoal เบาะที่นั่งผลิตขึ้นจากวัสดุเนื้อผ้าสีดำแบบ Connect Suede Textile/Microtech ให้สัมผัสพรีเมียมที่แฝงความเท่ห์ไว้ในตัว ทำให้ Volvo EX40 Black Edition ของรถทั้งสองรุ่นมีความสปอร์ต และเรียบหรู ในคันเดียวกัน
นอกเหนือจากตัวเลือกพิเศษอย่าง Volvo รุ่น Black Edition รถไฟฟ้า Volvo EC40 และ Volvo EX40 ยังมาพร้อมสีตัวถังภายนอกใหม่ ได้แก่ สี Sand Dune ที่ตัดกับโครงหลังคาสีดำของตัวรถอย่างลงตัว
โดยราคาจำหน่ายของ Volvo EC40 และ Volvo EX40 เจนเนอเรชันใหม่ รวมถึง Volvo รุ่น Black Edition พร้อมให้ผู้สนใจจองแล้ววันนี้
Volvo EC40 Ultra–Single Motor ราคา 2,090,000 บาท
Volvo EC40 Ultra-Twin Motor ราคา 2,790,000 บาท
Volvo EX40 Ultra–Single Motor ราคา 1,990,000 บาท
Volvo EX40 Ultra-Twin Motor ราคา 2,690,000 บาท
Volvo EC40 Ultra-Twin Motor Black Edition ราคา 2,490,000 บาท
Volvo EX40 Ultra-Twin Motor Black Edition ราคา 2,390,000 บาท
ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ Volvo EC40, Volvo EX40 และ Volvo รุ่นพิเศษ Black Edition สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >>กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว