รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!

QRCODE

ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที

เริ่มประเมินวงเงิน

หรือ

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลย

รถยนต์ไฟฟ้า BYD ในปัจจุบันมีรุ่นอะไรอยู่บ้างที่มีขายในไทย และมีสเปคแตกต่างกันอย่างไร..ไปดูกัน

ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV กำลังบูมในประเทศไทย เพราะด้วยการอุดหนุนจากภาครัฐทำให้รถยนต์ประเภทนี้มีราคาถูกลง รวมถึงการขยายจุดชาร์จที่มีการกระจายตัวให้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นจึงดึงดูดให้กลุ่มผู้ที่กำลังสนใจในรถ EV หันมาเลือกใช้รถประเภทนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในประเทศไทย BYD หรือ บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด จากจีนโดยให้ทาง REVER AUTOMOTIVE (เรเว่ ออโตโมทีฟ) เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้เปิดตัวออกมาหลายรุ่นแล้ว จะมีรุ่นไหนบ้าง สเปคเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยดีกว่า

EV-BYD-Spec-1

BYD ATTO 3

ราคา Standard Range 1,099,900 บาท และ Extend Range 1,199,000 บาท

สำหรับ ATTO 3 นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ BYD เข้ามาทำตลาดในไทย โดยจะมาในรูปแบบรถอเนกประสงค์ที่ใช้ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง โดยดีไซน์ภายนอกจะมากับการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face ส่วนไฟหน้าจะเป็นดีไซน์ที่เรียกว่า Dragon Crystal LED ที่จะมาพร้อม Daytime Running Light แบบ LED พร้อมระบบ Follow-me-home ส่วนไฟท้ายแบบ LED ในส่วนหลังคาจะเป็น Panoramic Sunroof ที่มาพร้อมม่านบังแดด พร้อมฝาท้ายไฟฟ้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ที่ช่วยให้ ATTO 3 ดูสปอร์ตขึ้น

EV-BYD-Spec-2

ส่วนภายใน ATTO 3 Atto 3 ตกแต่งด้วยสีทูโทน น้ำเงิน-เทา พร้อมหน้าจอ Digital ขนาด 5 นิ้ว และ หน้าจอสำหรับความบันเทิงเป็นระบบสัมผัส ขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับใช้ได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน (แบบท้ายตัด), เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่พร้อมเก็บสัมภาระ

EV-BYD-Spec-3

ATTO 3 จะมี 2 รุ่นให้เลือก นั่นคือ Standard Range กับ Extend Range โดยในตัว Standard จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor โดยจะให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ที่เป็นเอกลักษณ์ ในความจุ 49.92 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 410 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วน Extend Range จะให้กำลังและแรงบิดเท่ากันแต่จะมีจุดที่ต่างกันตรงที่ความจุแบตเตอรี่ที่จะเพิ่มเป็น 60.48 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

EV-BYD-Spec-4

BYD DOLPHIN

ราคา Standard Range 699,999 บาท และ Extend Range 859,000 บาท

นี่คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 จาก REVER AUTOMOTIVE นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดย Dolphin จะเป็นรถแบบแฮทช์แบ็ค ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบจากรูปทรงโลมาตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน มีความกว้างขวางและเต็มไปด้วยสีสัน พร้อมเทคโนโลยี e-Platform 3.0 ภายนอกจะใช้โคมไฟหน้าแบบ LED ที่มีระบบปรับความสูง-ต่ำได้, เปิดได้โดยอัตโนมัติ พร้อม Daytime Running Light ส่วนไฟท้ายก็จะใช้แบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่สปอยเลอร์หลังคา

EV-BYD-Spec-5

ส่วนภายใน Dolphin ยังมากับภายในที่กว้างขวางแม้จะมีขนาดตัวถังที่กะทัดรัด มอบความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยห้องโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง โดยสามารถจัดเก็บสัมภาระซึ่งเป็นกระเป๋าเดินทางขนาด 30 นิ้ว ได้ 1 ใบ และขนาด 20 นิ้ว ได้ 2 ใบ แสดงให้เห็นว่า Dolphin นั้นจะมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก

EV-BYD-Spec-6

Dolphin นั้นจะมี 2 รุ่นให้เลือก นั่นคือ Standard Range กับ Extend Range โดยในตัว Standard จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor โดยจะให้กำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ที่เป็นเอกลักษณ์ ในความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 410 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วน Extend Range จะให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ในความจุ 60.48 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 490 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

EV-BYD-Spec-7

BYD SEAL

ราคา Dynamic 1,325,000 บาท, Premium 1,449,000 บาท และ AWD Performance 1,599,000 บาท

นี่ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของ BYD ที่ทาง REVER AUTOMOTIVE ได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบพรีเมียมซีดาน ที่ได้รับการออกแบบโดยใช้หลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.219 Cd ทำให้รถรุ่นนี้มีการใช้พลังงานน้อยลง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก BYD Ocean X ส่วนการออกแบบด้านหน้าจะมากับไฟหน้า LED ที่เพรียวบาง และช่องดูดอากาศด้านล่างขนาดกะทัดรัด, กันชนหน้าตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำ และไฟท้ายแบบ LED

EV-BYD-Spec-8

การออกแบบภายในห้องโดยสารของ Seal ถือเป็นที่สุดในเรื่องดีไซน์และอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D Shape, หน้าจอ Driver Display ที่แสดงผลข้อมูล, Head-up Display ที่แสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ, จอแสดงผล Infotainment มีขนาด 15.6 นิ้ว, เบาะโดยสารจะเป็นแบบสปอร์ต

EV-BYD-Spec-9

Seal นั้นมี 3 รุ่นให้เลือก ประกอบด้วย Dynamic, Premium และ AWD Performance โดยในรุ่น Dynamic จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor โดยจะให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ในความจุ 61.44 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 510 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วน Premium จะให้กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ในความจุ 82.56 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 650 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) และรุ่น AWD Performance จะมากับมอเตอร์ 2 ชุด โดยคู่หน้าจะเป็น Asynchronous Motor ที่ให้กำลัง 160 กิโลวัตต์ และแรงบิด 310 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์คู่หลังแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลัง 230 กิโลวัตต์ และแรงบิด 360 นิวตันเมตร ทำให้มีกำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ในความจุ 82.56 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 580 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

 

ไม่เพียงรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นหลักๆ ของ BYD ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพราะล่าสุด REVER AUTOMOTIVE ก็ได้ขยายต่อยอดธุรกิจจากรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ไฟฟ้า) ไปสู่ รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ โดยได้จัดตั้ง REVER COMMERCIAL VEHICLES หรือ เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ขึ้นมาดูแลการจัดจำหน่ายรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์จาก BYD โดยจะมี รุ่น E6 และ T3

EV-BYD-Spec-10

BYD E6

ราคา 1,135,900 บาท

โดยรถรุ่นนี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 5 ที่นั่ง ที่มีพื้นที่บรรจุสัมภาระกว่า 580 ลิตร ด้วยตัวถังขนาดใหญ่ แต่กลับดูปราดเปรียว ส่วนภายในห้องโดยสารจะมีหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว อยู่ระหว่างมาตรวัดปริมาณแบตเตอรี่ และมาตรวัดความเร็ว ส่วนพวงมาลัยก็มีปุ่มควบคุมหน้าจอที่ด้านขวา ส่วนของเครื่องเสียงเป็นระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่สามารถปรับเป็นแนวนอนและตั้งได้ และยังมีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้ด้วย โดย E6 นั้นจะนำมาทำรถ TAXI เป็นหลัก

EV-BYD-Spec-11

เรื่องของการขับเคลื่อน E6 จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Permanent Magnet Synchronous Motor (ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า) ให้กำลัง 70 กิโลวัตต์ และแรงบิด 180 นิวตันเมตร พร้อม Blade Battery ที่มีความจุ 71.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 520 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

EV-BYD-Spec-12

BYD T3

ราคา 999,000 บาท

เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับใช้งานขนส่งเชิงพานิชย์ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ แต่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูง พร้อมพื้นที่บรรทุกขนาดใหญ่ถึง 3,800 ลิตร และสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 700 กิโลกรัม ช่วยให้สามารถตอบโจทย์ในระบบขนส่งได้เป็นอย่างดี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Permanent Magnet Synchronous Motor (ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า) ให้กำลัง 100 กิโลวัตต์ และแรงบิด 180 นิวตันเมตร พร้อม Blade Battery ที่มีความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 275 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง

 

ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของของรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<


บทความแนะนำ

swiper-arrow-prev
swiper-arrow-next
ขอสินเชื่อ จัดเลย!
กลับสู่ด้านบน