กฎหมายเช่าซื้อรถยนต์ฉบับใหม่นี้มีประโยชน์อย่างไรสำหรับคนอยากมีรถ

โดยใจความสำคัญก็คือ การคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หรือ Effective Interest Rate ซึ่งการผ่อนชําระในแต่ละงวดจะทําให้ยอดเงินต้นลดลง และส่งผลต่อดอกเบี้ยที่เรียกเก็บแต่ละงวดนั้นจะลดลงตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นแบบเก่าจะเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือ Flat Interest Rate ที่จะคำนวณดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในวันที่ทําสัญญา แล้วแบ่งออกเป็นงวดๆ ผ่อนไปจนครบสัญญา ข้อดีของกฎหมายสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ใหม่นี้ก็คือ ช่วยให้ผู้ที่ซื้อรถลดภาระในการชำระดอกเบี้ยลดลงจากแบบเก่า แต่..กฎหมายใหม่นี้จะครอบคลุมเฉพาะการเช่าซื้อรถส่วนบุคคลเท่านั้น

สาระสำคัญของสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ฉบับใหม่ มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลัก

ประเด็นที่ 1 กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสำหรับการให้เช่าซื้อรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถจักรยานยนต์ โดยกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อฯ ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ต่อปี สำหรับรถยนต์ใหม่, ร้อยละ 15 ต่อปี สำหรับรถยนต์ใช้แล้ว และร้อยละ 23 ต่อปี สำหรับรถจักรยานยนต์

ประเด็นที่ 2 เพิ่มอัตราส่วนลดดอกเบี้ยกรณีนำเงินมาชำระค่างวดครบก่อนกำหนด (ปิดบัญชี) จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย ในการปิดค่างวดเป็นขั้นบันได มี 3 กรณี ดังนี้ คือ ชำระค่างวด ไม่เกิน 1 ใน 3  ของค่างวดตามสัญญา จะได้รับส่วนลด ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 16 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ, ชำระค่างวด ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา จะได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่าร้อยละ 17 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ และชำระค่างวด เกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา จะได้รับส่วนลดทั้งหมด ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ

ประเด็นที่ 3 กรณีผู้บริโภคเกิดผิดนัดชำระค่างวด หรือเกิดล่าช้า จะโดนผู้ให้เช่าซื้อคิดเบี้ยปรับจากผู้บริโภคได้ โดยจะไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปีโดยคำนวณจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ จากเดิมที่ให้คิดเบี้ยปรับได้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตามสัญญาบวก 3% แต่ไม่เกิน 15%

ประเด็นที่ 4 กรณีนำรถออกขายทอดตลาดหากผู้บริโภคถูกยกเลิกสัญญา โดยผู้ให้เช่าซื้อสามารถนำรถออกขายทอดตลาด และผู้บริโภคจะต้องรับภาระเฉพาะเงินต้นสำหรับค่างวดที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ รวมกับค่างวดที่ค้างชำระ (รวมดอกเบี้ย) และค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจากการทวงถามหนี้ค่าเช่าซื้อก่อนมีการบอกเลิกสัญญา แต่กฎหมายใหม่นี้ให้คิดได้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ทำสัญญาเช่าซื้อที่ทำก่อนวันที่ 10 มกราคม 2566 จะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา แต่ท่านที่ทำสัญญาหลังวันดังกล่าวจะคิดตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ฉบับใหม่ ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อผู้บริโภค และสำหรับผู้ที่สนใจจะติดต่อขอสินเชื่อสามารถติดต่อได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ให้บริการโดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400 และติดตาม โปรโมชั่นรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม รายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<