FORD 

รุ่น : Next-Gen Ranger 

ราคา : SWB 664,000-844,000 บาท

Standard Cab ราคา 554,000-697,000 บาท

Open Cab ราคา 635,000-859,000 บาท

Double Cab ราคา 732,000-1,049,000 บาท

Wildtrak ราคา 999,000-1,299,000 บาท

Ranger Raptor ราคา 1,869,000 บาท

สำหรับท่านที่กำลังสนใจ Next-Gen Ranger ในโฉมนี้ถือว่าได้รับการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก ในส่วนของผู้ที่ต้องการรถเพื่อการพาณิชย์ก็มีรถ SWB, Standard Chassis Cab รวมถึง Standard Cab ให้คุณได้เลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการรถสำหรับครอบครัวเพื่อการการใช้ชีวิต หรือเพื่อเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนก็ต้องมองหารุ่น Open Cab และ Double Cab แต่ถ้าต้องการรถที่ได้รับการตกแต่งก็มีรุ่น Wildtrak ให้เลือกแต่ถ้านี่ยังไม่พอก็เชิญไปให้สุดกันกับ Ranger Raptor สุดยอดกระบะเพอร์ฟอมานซ์ของตลาดรถกระบะเมืองไทย ในทุกรุ่นจะมากับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและปราดเปรียวให้สมกับเป็นรถอเมริกันพันธุ์แกร่ง แต่ก็ฉีกการออกแบบเดิมๆ ที่เคยล้าสมัยให้กลายเป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่นด้วย กระจังหน้าโฉมใหม่ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C ช่วยให้ดูดุดันตามนิยาม "เกิดมาแกร่ง" อย่างชัดเจน และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ทำให้การขึ้นกระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งกว่าเคย

ISUZU

รุ่น : D-MAX

ราคา :  Spark ราคา 562,000-690,000 บาท

Spacecab ราคา 605,000-698,000 บาท

Hi-Lander 2 Door ราคา 773,000-903,000 บาท 

Cab 4 ราคา 716,000-855,000 บาท

Hi-Lander 4 Door ราคา 840,000-1,109,000 บาท

V-Cross ราคา 882,000-1,217,000 บาท

X-Series ราคา 733,000-992,000 บาท

เปลี่ยนฝั่งมาดูแบรนด์ Isuzu กันบ้าง โดย D-MAX ในโฉมล่าสุดนี้มีการเพิ่มระบบ ADAS (ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEMS) นั่นคือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มาพร้อม นวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำหน้าที่เสมือนดวงตาอัจฉริยะ คอยตรวจจับเส้นถนน และวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจน และแม่นยำ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ ทั้งยังมีเครื่องยนต์ให้ลอง 2 แบบ นั่นคือเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power (RZ4E-TC) ให้กำลัง 150 แรงม้า และ 3.0 Ddi Blue Power (4JJ3-TCX) ให้กำลัง 190 แรงม้า โดยในรุ่นย่อยของ D-MAX จะมี V-Cross เป็นเรือธงมาพร้อมกับดีไซน์ดุดัน แกร่ง ทรงพลัง สะกดทุกสายตา สะท้อนตัวตนที่เหนือกว่า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้ก็ยังมี Cab 4, Hi-Lander และ Spacecab ที่จะมาตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ถึงแม้แบรนด์นี้จะไม่มีตัวแรงอย่างค่ายแรก แต่ก็มีทางเลือกสำหรับวัยรุ่นที่ชื่นชอบความสปอร์ตอย่าง X-Series ที่มากับสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม โดยมีให้เลือก 2แบบ นั่นคือ Hi-Lander และ Speed ที่โดดเด่นการใช้สีแบบทูโทนสีดำ-แดง พร้อมสัญลักษณ์ X อันเป็นเอกลักษณ์

MAZDA

รุ่น : BT-50 ใหม่

ราคา : Standard Cab ราคา 553,000 บาท

Freestyle Cab ราคา 679,000-832,000 บาท

Double Cab ราคา 771,000-1,153,000 บาท

มาสด้า แนะนำมิติใหม่ของปิกอัพสไตล์เอสยูวีกับ BT-50 ใหม่ ผสานกับความทรงพลังจากเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า และ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 190 แรงม้า (คุ้นๆ มั้ยครับ) ด้านดีไซน์ BT-50 ใหม่ จะเป็นปิกอัพเรียบหรู สบาย สไตล์ SUV ตอบรับกับชีวิตทุกด้าน และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยภาษาการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว KODO Design ด้วยกระจังหน้า และ Signature Wing ขนาดใหญ่ ผ่านเส้นสายที่เรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ทั้งภายนอก และภายใน เช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง และรถเอสยูวีของแบรนด์นี้นั่นเอง ถ้าใครกำลังสนใจ BT-50 ใหม่ ในช่วงนี้ก็มีข้อเสนอรับส่วนลดพิเศษ (จำนวนจำกัด) เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการไทยอีกครั้ง จนถึง 31 ธันวาคม 2565 ที่โชว์รูมทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.มาสด้าสปีดไลน์ 02-030-5666

MG

รุ่น :  New Extender

ราคา : Giant Cab ราคา 589,000-739,000 บาท 

Double Cab ราคา 769,000-1,039,000 บาท

ทางแบรนด์ MG เองนอกจากจะมีรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นรุ่นชูโรงแล้วยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจนั่นก็คือรถกระบะพันธุ์ยักษ์อย่าง Extender ที่เสริมเกราะใหม่ ด้วยดีไซน์ทรงพลัง สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว โดดเด่นเกินใครด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สุดดุดัน เอกลักษณ์เฉพาะ MG ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ให้ทั้งสมรรถนะ, การควบคุม, การออกแบบ และความปลอดภัย ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) ให้ความแรงเต็มพิกัด 161 แรงม้า แต่ให้ความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีดีไซน์ภายในล้ำสมัย กับห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย

MITSUBISHI

รุ่น : Triton 

ราคา : Cab Chasis ราคา 519,000 บาท

Single Cab ราคา 539,000-719,000 บาท

Mega Cab ราคา 602,000-857,000 บาท

Double Cab ราคา 685,000-1,152,000 บาท

Athlete ราคา 1,005,000-1,196,000 บาท

Triton กลับมาสานต่อตำนานตัวแข่ง RALLIART โดยได้ฉลอง Triton Rally Car ที่เพิ่งชนะการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2022 ที่สร้างขึ้นจากรถกระบะ Triton ที่ผลิตในไทยรุ่นเดียวกับที่จำหน่ายอยู่ในตลาด และยังมีทางเลือกเป็นรุ่นพิเศษนั่นคือรุ่น RALLIART ที่ได้รับการตกแต่งด้วยชุดพาร์ทแท้จากญี่ปุ่น สำหรับ Triton นี่จะมีเครื่องยนต์ MIVEC 2.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 181 แรงม้า กับเครื่องยนต์ DI-D คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 128 แรงม้า โดยจะมีให้เลือกทั้ง Cab Chasis และ Single Cab สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ และยังมี Mega Cab กับ Double Cab สำหรับผู้ที่ต้องการรถเพื่อครอบครัว แต่ถ้าใครต้องการรถที่ตกแต่งมาแบบครบๆ ก็ต้องไปเล่นรุ่น Athlete

NISSAN

รุ่น : Navara

ราคา : Single Cab ราคา 595,000-689,000 บาท

King cab ราคา 649,000-689,000 บาท

Caliber ราคา 765,000-934,000 บาท

Pro-2X ราคา 1,030,000 บาท

Pro-4X ราคา 1,160,000 บาท

70th Anniversary ราคา 944,000 บาท

สำหรับ Nissan เป็นแบรนด์รถกระบะที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ยุคของ Big-M, Frontier จนมาถึง Navara ที่จะพาคุณข้ามทุกข้อจำกัด พร้อมเปลี่ยนทุกการเดินทางของคุณ ด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร (YD25DDTTi) ที่ให้กำลัง 163 แรงม้า,เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร (YS23DDT) ให้กำลัง 163 แรงม้า และ เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร (YS23DDTT) ให้กำลัง 190 แรงม้า ซึ่งก็เรียกได้ว่าพร้อมรองรับได้ทั้งรถเพื่อการพาณิชย์ และครอบครัว โดยจะมีรุ่น Pro-2X กับ  Pro-4X เป็นตัวชูโรง ล่าสุดก็ได้มีรุ่นดีไซน์พิเศษฉลองครบรอบ 70 ปี ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งให้ได้เลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบความลิมิเต็ด

TOYOTA

รุ่น : REVO

ราคา :  Standard Cab ราคา 597,000-769,000 บาท

Z Edition ราคา 622,000-810,000 บาท

Prerunner & 4x4 ราคา 740,000-1,207,000 บาท

Rocco ราคา 971,000-1,281,000 บาท

GR Sport ราคา 889,000-1,334,000 บาท

60th Anniversary ราคา 720,000-1,301,000 บาท

แบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Toyota ก็มี REVO ที่มาสู้ในตลาถรถกระบะ โดยจะมีเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร (1GD-FTV) ที่ให้กำลัง 204 แรงม้า กับ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร (2GD-FTV) ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า โดยมีรุ่นไฮไลท์อย่าง GR Sport โดยเป็นผลิตภัณฑ์ GR รุ่นที่ 4 ภายใต้ DNA ของ Gazoo Racing มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และ ขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลกที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ WRC และ Super GT นอกจากนี้ยังมีรุ่น 60th Anniversary เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี ของโตโยต้า นอกจากนี้ก็ยังมี Rocco ที่เพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ กล้องมองรอบคัน, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ส่วนใครที่ชอบตัวซิ่งก็มีรุ่น Z-Edition สำหรับคนที่ชอบรถตกแต่งหรือสายซิ่งมาเป็นทางเลือกอีกด้วย ที่สำคัญในปี 2023 หรือปีหน้าจะมีการจำหน่าย REVO ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าด้วยนั่นเอง 

สำหรับใครที่สนใจที่จะเลือกหารถกระบะไปไว้ใช้งาน หรือกับครอบครัวก็แวะเวียนไปชม และทดลองขับกันได้ที่โชว์รูมต่างๆ แต่ถ้าสนใจเรื่องของสินเชื่อสามารถติดต่อขอสินเชื่อรถเหล่านี้ได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ให้บริการโดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400 และติดตามโปรโมชั่นรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม รายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<