NEW MG4 รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนล้อหลังเปิดตัวแล้วในไทยกับราคาเริ่มต้นเพียง 869,000 แสนบาท

ส่วนงานออกแบบภายนอกนั้น NEW MG4 จะมากับ CONIC DESIGN โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบดีไซน์สปอร์ตรอบคัน โฉบเฉี่ยวในทุกการเคลื่อนไหวจากการออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN

สปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WINGถัดลงมาที่ล้อจะได้ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER ด้วยทรงรถแบบแฮทช์แบ็คทำให้ MG4 จะมากับมิติตัวถังขนาด 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) และจะมีระยะความยาวฐานล้ออยู่ที่ 2,705 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

ด้านการออกแบบภายในเป็นแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก เพื่อให้ดูโปร่งโล่งสบาย ด้วยการออกแบบคอนโซลกลางแบบ FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย

ด้านพวงมาลัย หุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ ส่วนหน้าจอแสดงผลจะเป็น Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว กับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android ส่วนลำโพงก็ให้มา 6 จุด  โดยจะมีช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C, ระบบกรองอากาศ PM2.5, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง

ในส่วนขุมพลังการขับเคลื่อนของ NEW MG4 ที่จะมาเปิดมิติใหม่ให้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC

พร้อมมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยในรุ่นนี้จะมีโหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ และ ระบบ KERS 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ พร้อมทั้งโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW

ในส่วนของการชาร์จ NEW MG4 จะเป็น EASY CHARGE นั่นคือง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh และ Normal Charge ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* ที่ 6.6 kWh พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี  MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ ทั้งยังรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

NEW MG4 ยังมากับระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุมพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF ที่ปรับแต่งช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ ได้แก่ ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA ฯลฯ นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง, ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง พร้อมด้วย ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART

NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D ราคา 869,00 บาท และรุ่น X ราคา 969,000 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า, สีดำ, สีแดง, สีเทา และสีขาว ตกแต่งภายในด้วยสีดำ ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ ในรุ่น X

สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ NEW MG4 สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<