KIA เตรียมจำหน่าย Sorento รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ที่มาพร้อมขุมกำลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ในไทยเร็ว ๆ นี้

Sorento เป็นรถอเนกประสงค์ขนาด 6-7 ที่นั่ง ที่จะมาทำตลาดภายใต้การดูแลของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ที่ถูกทาง เกีย คอร์ปอเรชัน แต่งตั้งให้ทำการดูแล การดำเนินงานในประเทศไทย โดยจะครอบคลุมด้านการขาย, การตลาด, การบริการหลังการขาย และเครือข่ายผู้จำหน่าย KIA อย่างเป็นทางการ โดยในงาน Motor Expo 2023 เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการนำตัวรถมาจัดแสดงพร้อมเปิดรับการจองสิทธิ์เพื่อซื้อรถรุ่นนี้ โดยจะมาพร้อมขุมพลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid และการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย, สมรรถนะ และพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยจะมี 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Smart Plus HEV, Premium HEV และ Premium Plus PHEV (6 ที่นั่ง) 

ภายนอกตัวรถ KIA Sorento จะมากับมิติตัวถังยาว 4,810 มม., กว้าง 1,900 มม. และสูง 1,700 มม. โดยรุ่น Smart Plus HEV, Premium HEV มากับไฟหน้า LED แบบ Multi Face Reflector ส่วน  Premium Plus PHEV มาพร้อมไฟหน้า LED แบบ Projection โดยในทุกรุ่นมี ระบบไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED, ราวหลังคา, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า, กระจกไฟฟ้าทุกบานเลื่อนขึ้น-ลงแบบ One Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ, กระจกประตูหลังแบบ Privacy, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor) และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ) ด้วยระบบ Smart Tailgate นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 ส่วนซันรูฟแบบ Panoramic นั้นจะให้มาแต่ในรุ่น Premium Plus PHEV เท่านั้น

ภายในของ Sorento นั้นถูกปรับมาให้ดูพรีเมียมกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วย หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Supervision ขนาด 12.3 นิ้ว กับหน้าจอแสดงผลระบบภาพและเสียงขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน ที่มีแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift 

ส่วนเบาะนั่งจะเป็นแบบหนังที่สามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้า (ผู้ขับ) ถึง 8 ทิศทาง (ในรุ่น Premium Plus PHEV ปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง) นอกจากนี้ยังมีส่วนหนุนหลังผู้ขับขี่แบบปรับด้วยไฟฟ้า, เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า (อยู่ใน Premium HEV และ Premium Plus PHEV) ด้านระบบแอร์จะเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ที่มีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 แบบแยกส่วน นอกจากนี้ระบบแอร์ยังสามารถสี่งการได้จากกุญแจรีโมทอีกด้วย โดยในรุ่น Premium Plus PHEV จะได้ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (HUD), ไฟเรืองแสงบริเวณคอนโซลและแผงประตูหน้าปรับได้ 7 สี และแป้นคันเร่งและเบรกตกแต่งด้วยโลหะ

ด้านระบบเพื่อความบันเทิงนอกจากจะมีหน้าจอแสดงผลระบบภาพและเสียงขนาด 10.25 นิ้ว ยังรองรับการสั่งการด้วยเสียง พร้อมเชื่อมต่อผ่านบลูทูธรองรับ Android Auto / Apple Carplay และ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย หรือ Wireless Charger ส่วนลำโพงจะให้มา 6 จุด แต่ถ้าเป็นรุ่น Premium Plus PHEV จะได้ลำโพงจาก BOSE รอบคัน 12 จุด

มาต่อกันที่เครื่องยนต์กันบ้าง ในรุ่น Smart Plus HEV และ Premium HEV จะมากับเครื่องยนต์ Smartstream เบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กับแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ ความจุ 1 kWh ทำให้ได้กำลังสูงสุดถึง 230 แรงม้า โดย 2 รุ่นนี้จะได้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่วน Premium Plus PHEV นั้นจะให้กำลังมากกว่า โดยจะอยู่ที่ 265 แรงม้า และจะได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All Whell Drive

ส่วนเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน KIA Sorento ทั้ง 3 รุ่นย่อย มีระบบเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ อาทิ ระบบความคุมแรงเบรกขณะลงทางลาดชัน DBC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบช่วยรักษาสเถียรภาพการทรงตัวในกรณีลากจูง TSA, เบรกมือแบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Brake Hold และเซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ถอยจอดด้านหลัง แต่  Premium Plus PHEV จะได้ระบบพวกนี้เพิ่มมา กล้องมองรอบทิศทาง, ระบบรักษาความสูงท้ายรถอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง (Child Lock) รุ่นอื่นเป็นระบบแมนนวล แต่รุ่นนี้จะควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

ส่วนระบบเสริมความปลอดภัยขั้นสูง ในรุ่น Premium HEV และ Premium Plus PHEV จะได้ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบป้องกันการชนด้านหน้าที่ขยายจากการตรวจจับรถ คนและสิ่งกีดขวาง พร้อม Junction Assist และระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ นอกนั้นจะเป็นระบบที่ทั้ง 3 รุ่นได้เหมือนกันนั่นคือ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างและหลีกเลี่ยงการชน, ระบบแจ้งเตือนและหลีกเลี่ยงการชนขณะถอยหลัง และ ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร

สำหรับราคาของ KIA Sorento นั้นยังไม่ได้มีการประกาศราคาออกมาอย่างเป็นทางการ ถ้าอยากได้คงต้องรอ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

แต่ถ้าไม่อยากรอ KIA ก็ยังมี Carnival ให้เลือกกันถึง 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย  LX (ราคา 1,892,000 บาท),  EX (ราคา 1,892,000 บาท) และ  SXL (ราคา 2,594,000 บาท) ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของสามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<