รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดตัว New City Hatchback โดยยังคงมีรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV จากเดิมที่เคยมี e:HEV RS ในโฉมนี้ก็ได้เพิ่มรุ่น e:HEV SV และรุ่นขุมพลัง VTEC TURBO ที่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและอัปเกรดความปลอดภัยอีกขั้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
ทั้งยังเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าสำหรับรุ่น e:HEV จะรับเพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 7 ก.พ. 2567 – 30 เม.ย. 2567) และยังมีข้อเสนอพิเศษให้ทั้ง 2 รุ่น ให้รถรุ่นนี้พร้อมพาคุณไปในทุกเส้นทาง
Honda City Hatchback
Honda City Hatchback
New City Hatchback จะมากับดีไซน์ภายนอกใหม่ที่เห็นได้ชัด ๆ เลยก็คือ รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน กับกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV), กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ที่มีดีไซน์ใหม่
Honda City Hatchback
Honda City Hatchback
สำหรับรุ่น RS และ e:HEV RS จะมากับกระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS และเพิ่มสเกิร์ตข้างใหม่
ส่วนไฟหน้าจะเป็นแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV), ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
แต่สำหรับรุ่น RS และ e:HEV RS จะได้ไฟหน้าแบบ LED, พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED รวมถึงไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
รุ่น SV
รุ่น RS
นอกจากนี้ก็ยังได้มีการปรับลายล้ออัลลอยที่จะมาในดีไซน์ใหม่ โดยจะเป็น ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV) ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS จะได้เป็น ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
ภายในห้องโดยสารของ New City Hatchback จะมากับเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) ที่สามารถปรับพับเพิ่มสเปซการใช้งานได้ดั่งใจ ทั้งยังแยกพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องสัมภาระท้าย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่
โดยในรุ่น SV และ e:HEV SV จะเป็นเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา ส่วนรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS จะเป็นเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
และ Honda ยังได้เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่เพิ่มการรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย* และใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง*
New City Hatchback มากับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน นั่นคือ ฟูลไฮบริด e:HEV และ VTEC TURBO
ฟูลไฮบริด e:HEV ตอบโจทย์ในทุกเส้นทางด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตันเมตร และประหยัดน้ำมันที่ 27.8 กม./ลิตร และยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร (รองรับน้ำมัน E20) ทั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
VTEC TURBO จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger ให้การขับขี่ที่สนุกทุกเส้นทางด้วยอัตราเร่งแรงเร้าใจ ด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร (รองรับน้ำมัน E20)
มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (รุ่น S+, SV และ RS) พร้อม ใหม่! ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ พร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครัน* อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (รุ่น e:HEV RS), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ฯลฯ
ทั้งยังมี Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS) ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ประกอบด้วย 8 ฟังก์ชัน
My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และบันทึกการเดินทางที่สามารถเลือกทริปโปรดและแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย
WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ (ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่ายโดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย)
Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และแจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก
Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ฯ
Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน
New City Hatchback จะมีสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน บริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำทูโทน ใหม่! (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS), สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS), สีดำคริสตัล (มุก), สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก), สีเทาโซนิค (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น S+) พร้อมมี 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
รุ่นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
รุ่นขุมพลัง VTEC TURBO มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ New Honda City Hatchback สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
หมายเหตุ:
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว