OMODA C5 EV ดีไซน์ไม่เหมือนใคร ให้สเปคจัดเต็มด้วยราคาเริ่มต้น 649,000 บาท

ขุมพลังไฟฟ้า ที่แรงพอตัว
OMODA C5 EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ให้พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า กับแรงบิด 340 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 172 กม./ชม. สามารถเร่งความเร็วจาก 0–100 กม./ชม. ได้ใน 7 วินาที แรงพุ่งดีตั้งแต่ออกตัว ช่วงเร่งแซงหรือขึ้นทางชันก็เอาอยู่ แถมวิ่งเงียบ ลื่น และนิ่ง แบตเตอรี่ (LFP) ขนาด 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุด 505 กม. (NEDC) หรือประมาณ 430 กม. (WLTP) รองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 80 กิโลวัตต์ ชาร์จ 30-80% ใน 28 นาที และรองรับการชาร์จ AC สูงสุด 9.9 กิโลวัตต์

เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงให้ครบจัดเต็ม
OMODA C5 EV เพิ่มฟังก์ชันการขับขี่ให้สะดวกสบายปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง 17 ADVANCED DRIVING ASSISTANT SYSTEM และ 1 DRIVER MONITOR SYSTEM มีเทคโนโลยีตัวไหนบ้าง?

• ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSD)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC)
• ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (ICA)
• ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA)
• ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DMS)
• กล้องรอบคัน 540 องศา

เทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร

• หน้าจอแสดงผลคู่ขนาดใหญ่ 24.6 นิ้ว (12.3 นิ้ว x 2) แบบทัชสกรีน
• ระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 สี
• เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบระบายอากาศ
• ระบบเครื่องเสียง SONY 8 ตำแหน่ง
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 2 โซน
• กุญแจ Keyless พร้อมสั่งงานผ่านรีโมท

ดีไซน์ล้ำ ๆ เหมือนหลุดมาจาก Cyberpunk

เมื่อเห็น OMODA C5 EV ครั้งแรกให้ความรู้สึกแตกต่างจากรถไฟฟ้าทั่วไป ดีไซน์ภายนอกแบบ “Light of Movement” เล่นแสงและเงาอย่างมีมิติ ด้วยเส้นสายตัวถังแบบ Futuristic ที่เฉียบคม พ่วงกระจังหน้าแบบปิด ล้ออัลลอยลายสุดล้ำ พร้อมหลังคาดำแบบ Two-Tone ที่ยกระดับลุคให้ดูพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น ไปดูที่ โครงสร้างตัวถังของ OMODA C5 EV ผลิตขึ้นโดยใช้เหล็กชนิดทนแรงดึงสูง (High-Strength Steel) ถึง 78% ของโครงสร้างทั้งหมดพร้อมโครงสร้างนิรภัยดูดซับแรงกระแทก 

ข้อดีและข้อสังเกตของ OMODA C5 EV จากการรีวิวและประสบการณ์ใช้งานจริง มีดังนี้

ข้อดี

1. ช่วงล่างดี ขับขี่สบาย มีความนุ่มเฟิร์ม เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและออกต่างจังหวัด ขับผ่านถนนขรุขระได้ดี ไม่แข็งกระด้างหรืออ่อนยวบเกินไป
2. ออปชันและเทคโนโลยีครบ มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้มามาก เช่น กล้องรอบคัน 540 องศา ระบบ ADAS+DMS มากกว่า 17+1 ระบบ และระบบช่วยขับขี่และเตือนต่าง ๆ
3. ระยะทางวิ่งจริงใกล้เคียงเคลม แม้ตัวเลขเคลม NEDC จะอยู่ที่ 505 กม. แต่จากการใช้งานจริงสามารถวิ่งได้ประมาณ 380-400 กม. ซึ่งถือว่าดีในกลุ่มรถไฟฟ้าราคาใกล้เคียงกัน
4. ดีไซน์และพื้นที่ใช้สอย ห้องโดยสารนั่งสบาย เบาะหลังไม่อึดอัด พื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับใช้งานครอบครัว
5. รองรับการชาร์จเร็วและ V2L รองรับชาร์จเร็ว DC สูงสุด 80 กิโลวัตน์ ชาร์จ 30-80% ใน 28 นาที และมีฟีเจอร์จ่ายไฟออก (V2L) ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้
6. มีบริการหลังการขายและมีการรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ 8 ปี หรือ 200,000 กม.

ข้อสังเกต

1. เสียงจากพื้นถนนเข้าห้องโดยสาร มีเสียงจากใต้ท้องรถเข้ามาค่อนข้างชัด โดยเฉพาะรุ่นที่ไม่ได้กระจกคู่หน้าลดเสียงรบกวน
2. ระบบรีเจนหน่วงแรงและตอบสนองช้า ระบบรีเจนเนอเรทีฟเบรก (Regen) มีอาการหน่วงและดึงแรง โดยเฉพาะเวลาปรับระดับสูง อาจทำให้รู้สึกกระชากหรือมึนหัวเมื่อปล่อยคันเร่งบ่อย ๆ
3. ม่านบังแดดกระจกหลังต้องใช้มือปิดเอง แม้จะมีม่านบังแดดให้ แต่ต้องใช้มือปิดเอง ไม่ใช่ระบบไฟฟ้า
4. อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าจริงสูงกว่าเคลม จากการขับใช้งานจริง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16-18 kWh/100 กม. ทำให้ระยะทางวิ่งจริงต่ำกว่าตัวเลขเคลม NEDC
5. การตั้งค่าระบบบางอย่างใช้งานไม่สะดวก เช่น การเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟต้องกดหลายจังหวะ และการตั้งค่าระบบช่วยเหลือบางอย่างอาจต้องปรับจูนให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน

ราคา OMODA C5 EV โดนใจจริง

• รุ่น Long Range Dynamic
  • จากราคาเต็ม 899,000 ปรับราคา 649,000
• รุ่น Long Range Max
  • จากราคาเต็ม 949,000 ปรับราคา 699,000

สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ OMODA C5 EV หรือถ้าคุณสนใจรถรุ่นอื่น ๆ สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<