รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยในปี 2023 BYD ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ได้ประกาศเปิดตัวแบรนด์ย่อยใหม่ Fang Dheng Bao (ฝางเฉิงเปา) อย่างเป็นทางการ โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้นั้นก็จะออกมาตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งผลิตภัณฑ์นั้นก็จะมีตั้งแต่รถออฟโรดไปจนถึงรถสปอร์ต ส่วนชื่อ Fang Dheng Bao นั้นแปลจากภาษาจีนได้ว่า Formula และ Leopard ที่สื่อถึงความคล่องตัว และความสามารถรอบด้านของตัวรถ
BYD FANG CHENG BAO BAO 5
โดยทาง BYD ได้ส่ง BAO 5 มาโชว์ตัวให้ได้ชมกันไปแล้วในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา สำหรับการออกแบบของ Fang Dheng Bao (FCB) BAO 5 จะเป็นรถเอสยูวีขนาดกลาง ที่มีมิติตัวถังอยู่ที่ความยาว 4,890 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร, ความสูง 1,920 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มิลลิเมตร
ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบ Cell to Chassis (CTC) ทำให้รถรุ่นนี้มาพร้อมการออกแบบที่สะท้อนถึงความสง่างาม และเทคโนโลยีแห่งอนาคต แต่ก็แฝงไว้ด้วยความดุดัน, แข็งแกร่ง จากตัวถังที่มีมิติเหลี่ยมมุม เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับกรผจญภัยด้วยหลังคาพาโนรามิกซัฟรูฟ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบเต็มบาน ทำให้สามารถดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่
ส่วนด้านหน้ารถจะประกอบด้วยไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่ออกมาให้เส้นไฟกลมกลืนไปกับกระจังหน้าสีดำทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ของทาง FCB ที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางโดยจะมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด 4 ชิ้นวางเชื่อมต่อกัน โดยจะอยู่เหนือกล้องหน้ารถที่อยู่ใต้โลโก้พอดี และยังมีไฟตัดหมอกขนาดเล็กอยู่บริเวณกันชน ขณะที่ด้านข้างดูดุดันด้วยการออกแบบที่เน้นเหลี่ยมมุม และซุ้มล้อสีดำ ที่อยู่เหนือล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ กับยางขนาด 265/55 R18 ส่วนด้านท้ายติดตั้งยางอะไหล่อยู่ที่ฝาท้ายบานสวิง
ภายในห้องโดยสาร FCB BAO 5 นั้นผสมผสานความสวยงาม และความสะดวกสบาย ด้วยเบาะโดยสารที่มีระบบระบายอากาศ, อุ่นเบาะ และระบบเบาะนวดคู่หน้า เสริมด้วยการยืดหยุ่นของการใช้งานระหว่างเบาะ และพื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดยเบาะด้านหน้าสามารถพับเรียบไปกับเบาะด้านหลังได้อย่างไร้รอยต่อ
สำหรับเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และการพับเบาะด้านหลังเป็นแบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ โดยมีที่เก็บสัมภาระรอบคันมากถึง 30 จุด ด้านระบบมัลติมีเดียของ BAO 5 มาพร้อมกับหน้าจอทั้งหมด 5 จอ ประกอบด้วยหน้าจอเรือนไมล์ขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้ขับขี่, หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าแบบ AR (AR-HUD) และกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่ง เพื่อความบันเทิง BAO 5 ยังให้ลำโพงจำนวน 18 จุดรอบคันเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานมัลติมีเดียที่หลากหลายและครบวงจร และเสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 11 ตำแหน่งรอบคัน
FCB BAO 5 นั้นพัฒนาขึ้นมาภายใต้นวัตกรรมไฮบริดอย่าง DMO Platform (DMO มาจาก Dual Mode Off-road) ผนวกกับเทคโนโลยีการออกแบบ CTC ทำให้มีการจัดวางแบตเตอรี่ไว้ภายในฐานของแชสซีส์ของตัวรถ ทำให้มีการปกป้องความปลอดภัยให้แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี เพื่อสมรรถนะในเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ
สำหรับคันที่นำมาจัดแสดงนั้นจะมากับพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 143 กิโลวัตต์ (191.77 แรงม้า) แรงบิด 273 นิวตันเมตร และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าไฟฟ้า สำหรับมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 200 กิโลวัตต์ (268.2 แรงม้า) แรงบิด 360 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลังให้กำลัง 285 กิโลวัตต์ (382.19 แรงม้า) แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำให้เมื่อรวมกัน BAO 5 จะมีกำลัง 505 กิโลวัตต์ (677.22 แรงม้า) แรงบิด 760 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งยังสร้างอัตราเร่งจาก 0 – 100กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.8 วินาที และตัวรถยังมีความจุถังน้ำมัน 83 ลิตร, ความจุแบตเตอรี่ 31.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และรองรับการชาร์จสูงสุด AC 7 กิโลวัตต์, รองรับฟังก์ชัน VTOL และ DC สูงสุด 100 กิโลวัตต์ อีกด้วย
ในด้านเทคโนโลยีนั้น FCB BAO 5 นั้นมากับ ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ, กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH), ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (ACC-S&G), ระบบแจ้งเตือนจํากัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLI), ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISLC), ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (APA), ระบบตรวจจับความเมื่อยล้อของคนขับ (DMS), ระบบช่วยควบคุมรถยนต์อัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัจฉริยะ (ILCA), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (LCC) เสริมด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD), ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB), ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA), ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTB), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
อีกทั้งโครงสร้างของตัวรถมี High Strength Steel ในสัดส่วนที่มากถึง 96% จึงช่วยลดการยุบตัวจากแรงชนด้านหน้าลงถึง 30% ร่วมด้วยเทคโนโลยี CTC ช่วยลดการยุบตัวจากแรงชนด้านข้างลงถึง 25% และคานบิดของ BAO 5 ได้รับการปรับปรุงให้แข็งแกร่งขึ้นถึง 38% ทำให้ตัวรถทนทานต่อแรงบิดเมื่อเลี้ยวและเข้าโค้ง
อีกหนึ่งจุดเด่นคือความสามารถในการประมวลผล และควบคุมกำลังของมอเตอร์หน้าและหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รถรุ่นนี้มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 3.4 เมตร เมื่อใช้ระบบ BAO TURN ในการเข้าโค้ง อีกทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ ประกอบด้วยเซนเซอร์และเรดาร์สำหรับฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่มากถึง 20 ระบบ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
ในตอนนี้ Fang Dheng Bao BAO 5 ยังไม่มีการเปิดตัวพร้อมราคาออกมาในไทยอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ จาก BYD สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว