KING LONG บุกตลาดรถกระบะไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ในไทยด้วยรุ่น DRACON ที่มากับ 3 รุุ่นย่อย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 858,000 บาท

     การมาของแบรนด์ KING LONG ในไทยนั้นเกิดจากความร่วมือกันของ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA ที่ผนึกกำลังกับ เซี่ยเหมิน คิง ลอง ยูไนเต็ด ออโตโมทีฟ อินดัสตรี หรือ King Long ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้น ๆ ในจีน ที่มีเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวหน้า มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และผลิตรถเพื่อการพาณิชย์มากว่า 30 ปี

     ร่วมกันเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ในไทยนั่นก็คือ KING LONG DRACON ที่มากับธีม "Together For EV-lization" โดยจะเป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% ขนาด 1 ตัน เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่ง โลจิสติกส์ในไทย ซึ่งจะมีการจำหน่ายทั้งแบบฟลีทและขายปลีกโดยตั้งเป้ายอดขายปีแรกไว้ที่ 1,000 คัน และยังได้เปิดโชว์รูม KING LONG แห่งแรกในย่านรองเมือง

     KING LONG DRACON นั้นขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ให้กำลัง 120 กิโลวัตต์ หรือ 163 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ทั้งยังสามารถไต่ความชันได้มากกว่า 30% (บรรทุกน้ำหนักสูงสุด) ผนวกกับแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต (LFP) ที่มีความจุ 59.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ทำให้ DRACON สามารถขับเคลื่อนได้ถึง 302 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง 

     ส่วนเรื่องของการชาร์จของรถคันนี้ก็จะมีทั้งการชาร์จปกติ (AC 6.6 กิโลวัตต์) 0-100% ใน 8 ชั่วโมงและการชาร์จเร็ว (DC 98 กิโลวัตต์) 20-80% ใน 30 นาที และด้วยโครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้าแบบ High Strength Frame Chassis และโครงสร้างแบตเตอรี่เป็นโลหะที่มีความแข็งแรงสูง

     ทำให้รถรุ่นนี้มีแข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมลุยทุกเส้นทางและยังสามารถลุยน้ำลึกได้สูงถึง 500 มิลลิเมตรอีกด้วย

     KING LONG DRACON มากับ 3 รุ่น คือ รุ่น CHASSIS CAB, รุ่น SINGLE CAB และ รุ่น DOUBLE CAB โดยจะมากับมิติตัวถังที่มีความยาว 5,330 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร, ความสูง 1,864 มิลลิเมตร 

     ส่วนขนาดของตัวกระบะบรรทุกในรุ่น SINGLE CAB นั้นจะอยู่ที่ความยาว 2,297 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,499 มิลลิเมตร, ความสูง 517 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น DOUBLE CAB อยู่ที่ความยาว 11,497 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,499 มิลลิเมตร, ความสูง 517 มิลลิเมตร รองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุดที่ 3,000 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักของตัวรถจะอยู่ที่ 1,900-2,055 กิโลกรัม

     โดยการออกแบบภายนอกจะให้ ล้อกระทะ, ล้ออัลลอย ในรุ่น DOUBLE CAB ขนาด 17 นิ้ว ที่ใส่กับยางขนาด 245/70R17 ด้านระบบไฟของ DRACON ไฟหน้าจะเป็นแบบโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน, ระบบปรับไฟหน้า, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกหลัง, ไฟเบรกดวงที่ 3, ไฟส่องสว่างที่ประตู

     สำหรับกระจกมองข้างที่มีไฟเลี้ยวในตัวปรับได้ด้วยไฟฟ้าและยังมีแผ่นปูพื้นกระบะแบบสำเร็จมาจากโรงงาน โดยที่รุ่น DOUBLE CAB จะได้มากกว่าก็คือ ไฟตัดหมอกหน้า บันไดข้าง สปอร์ตบาร์และกันชนท้ายโครเมียมขนาดใหญ่

     การออกแบบภายในของ KING LONG DRACON สำหรับ รุ่น CHASSIS CAB กับ รุ่น SINGLE CAB จะได้วัสดุหุ้มเบาะแบบผ้าพรีเมียม ที่ปรับระดับเบาะนั่ง (ผู้ขับขี่+ผู้โดยสาร) ได้ 4 ทิศทาง ส่วนที่พักแขนกลางนั้นถูกบุนุ่ม สามารถเปิดได้แบบแยกฝั่ง (ซ้าย-ขวา) ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่จะเป็นแบบ TFT ด้านระบบปรับอากาศก็เป็นแบบอัตโนมัติ, กระจกไฟฟ้าในทุกบาน แต่ด้านผู้ขับขี่จะมาพร้อมระบบขึ้น-ลงอัตโนมัติ, กระจกมองหลังแบบลดแสง

     สำหรับ 2 รุ่นนี้จะได้พวงมาลัยแบบมาตรฐาน นอกนั้นก็จะมีกล่องเก็บของแบบหน่วงเวลา, ที่เขี่ยบุหรี่, ช่องจ้ายไฟ 12V และมือจับภายในรถ แต่สิ่งที่รุ่น DOUBLE CAB จะได้เพิ่มมาก็คือวัสดุหุ้มเบาะแบบหนังสังเคราะห์แบบพรีเมียม, เบาะผู้โดยสารแถวหลังแบบ 2+1 ที่สามารถพับได้ ส่วนพวงมาลัยก็จะได้แบบมัลติฟังก์ชัน ด้านระบบมัลติมีเดียในรุ่น CHASSIS CAB กับรุ่น SINGLE CAB จะได้วิทยุแบบ 1 DIN ที่มีระบบเชื่อมต่อ AUX และลำโพง 2 ตัว แต่รุ่น DOUBLE CAB จะได้จอแสดงผลมัลติมีเดียแบบ LCD ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ ANDROID AUTO แบบไร้สายและระบบ PHONE LINK, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, USB, ระบบนำทาง เพิ่มเข้ามา ส่วนลำโพงก็จะได้เป็น 4 ตัว

     ทางด้านระบบความปลอดภัยที่มีอยู่ใน KING LONG DRACON ก็จะมี ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยเหลือขณะขึ้นเขา (Uphill Assist), ถุงลมนิรภัยด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ระบบแจ้งเตือนเข็มขัดนิรภัยและปรับระดับเข็มขัดนิรภัยสำหรับคู่หน้า, ระบบล๊อกประตูแบบล๊อกอัตโนมัติตามความเร็วการขับขี่, ระบบปลดล๊อกประตูอัตโนมัติพร้อมปลดล๊อกอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่นเคยสิ่งที่ DOUBLE CAB จะได้เพิ่มเข้ามาก็คือ กล้องถอยหลัง, เซนเซอร์ถอยหลัง แต่กุญแจรีโมทนั้นจะมีอยู่ในทุกรุ่น 

     KING LONG DRACON จะมี 5 สีตัวถังให้เลือกโดยจะเป็นสีแบบเมทัลลิก ได้แก่ สีเงิน, สีขาว, สีแดง, สีดำ และสีน้ำเงิน โดย CHASSIS CAB กับ SINGLE CAB จะมีแต่สีขาวเท่านั้น ส่วนราคาจำหน่ายนั้นจะอยู่ที่ (ราคาคาดการณ์)

• รุ่น CHASSIS CAB ราคา 858,000 บาท

• รุ่น SINGLE CAB ราคา 888,000 บาท

• รุ่น DOUBLE CAB ราคา 988,000 บาท

     โดยทาง TTA และ KING LONG คาดว่า DRACON นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานระยะสั้นถึงระยะกลาง ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อการพาณิชย์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย โดยได้ผ่านการทดสอบเข้มข้นเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และความต้องการของผู้ใช้งานในประเทศได้เป็นอย่างดี

     ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ KING LONG DRACON ทั้ง 3 รุ่นย่อย สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<