รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับจองใน Motor Show 2022 มีอะไรบ้าง

ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มีให้เลือกถึง 3 รุ่น ราคา 6,390,000 บาท

สำหรับรุ่น e-tron GT quattro, e-tron GT quattro Performance ราคา 6,790,000 บาท ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 กิโลวัตต์ ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และตัวท็อปที่สุดคือ RS e-tron GT quattro ราคา 9,490,000 บาทเพิ่มความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มาพร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ที่ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 830 นิวตัน-เมตร สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ทำตลาดในไทยมาหลายรุ่น เช่น i X3 M Sport, i X xDrive50 Sport ล่าสุดก็ได้ส่ง i4 ลงทำตลาดด้วย 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย i4 M50 ราคา 4,999,000 บาท, i4 eDrive40 M Sport ราคา 4,499,000 บาท

โดย i4 เป็นรถทรง Gran Coupe 4 ประตู ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นรวมถึงคุณสมบัติหลากหลาย และความพรีเมียมในระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีแชสซีที่ถูกพัฒนา นอกจากนี้ ระบบควบคุมและระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นใหม่

โดย i4 M50 จะมาพร้อมมระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวบริเวณเพลาหน้าและด้านหลังของรถ ทำให้สามารถส่งพลังได้ถึง 400 กิโลวัตต์ หรือ 544 แรงม้า สามารถทำระยะวิ่งได้สูงสุดถึง 521 กิโลเมตร

ส่วน i4 eDrive40 M Sport จะมากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 250 กิโลวัตต์ หรือ 340 แรงม้า ทำให้มีระยะวิ่งสูงสุดถึง 590 กิโลเมตร

รถไฟฟ้าขนาดเล็ก FOMM One ที่มีขนาดกระทัดรัดโดย FOMM ย่อมาจาก First One Mile Mobility โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จาก บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จำกัด ซึ่งเป็นที่ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็สามาารถทำงานได้เสมือนรถยนต์ไฟฟ้าขยาดใหญ่

ซึ่งใครที่มองว่าจะเชื่อถือคุณภาพได้หรือไม่นั้น FOMM ONE เองเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเทคโนโลยีจากบริษัทแม่ในญี่ปุ่น มาทำการผลิตในไทย เพื่อที่จะให้เป็นรถที่ใช้เดินทางในระยะทางสั้น ๆ สำหรับการเดินทางไปในที่ไม่ไกลจากบ้านนัก เช่น จากบ้านไปสถานีรถไฟฟ้า จากบ้านไปที่จอดรถ

ถึงแม้ว่าจะเป็นรถคันเล็ก แต่สามารถนั่งได้ถึง 4 คน เพื่อการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังรถที่เหมาะกับประเทศไทยที่เกิดน้ำท่วมบ่อย เพราะ FOMM ONE สามารถทนต่อความเสียหายแม้จะอยู่ในสภาวะน้ำท่วมขัง อีกทั้งสามารถเคลื่อนที่บนน้ำได้ ด้วยวงล้อที่ออกแบบขึ้นมาเฉพาะ โดยตัวรถนั้นให้มอเตอร์ขนาด 5 กิโลวัตต์ 2 ตัว

เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Lexus ที่มากับทรงคอมแพกต์ ครอสโอเวอร์ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด Creative Urban Explorer

โดยมากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร สามารถขับได้ในระยะทาง 360 กิโลเมตร โดยชุด Power Control Unit ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อรองรับกระแสไฟฟ้า 

นี่คือยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่นำมาโชว์ตัว แต่ยังไม่เปิดราคา โดยรถคันนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคต

โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 107.8 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 568 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 6.2 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 770 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง

อันที่จริงต้องเรียกว่า New MG ZS EV เพราะเป็นรุ่นปรับโฉมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบ SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Truly Easy ที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ภายนอกเรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน

จริงๆ อีกรุ่นที่น่าสนใจก็คือ MG EP PLUS ราคา 998,000 บาท โดยเป็นรถทรงสเตชั่นแวกอน แต่ New ZS EV นั้นเป็นรุ่นใหม่กว่าโดยจะมี 2 รุ่นย่อยให้เลือก โดยยังไม่มีการประกาศราคาคงต้องรอไปฟังราคากันในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ให้กำลัง 177 แรงม้า (130 กิโลวัตต์) กับแรงบิด 280 นิวตัน - เมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที

และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

รถยนต์ไฟฟ้าจาก MINI ที่สืบทอดตำนานความคลาสสิกตามแบบฉบับของ MINI 3 ประตู ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง BMW Group ได้พัฒนาขึ้น

ทำให้ส่งพละกำลัง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง

ส่งความเร็วจาก 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที มอบความแรงเร้าใจใน 60 เมตรแรกได้เทียบชั้นรถสปอร์ต และสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่ง-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที วิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานNEDC)

เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ขับขี่ ในทุกวันให้เต็มไปด้วยสีสัน มั่นใจ เร้าใจยิ่งขึ้น ในทุกเส้นทาง ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง  40 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และไปได้ไกลถึง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ให้พลังแรงเต็มประสิทธิภาพโดยไม่เปลืองพื้นที่ติดตั้ง อีกทั้งยังรับประกันอายุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สามารถใช้งานได้ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

นอกจากนี้ ยังกล้ารับประกันระบบไฟฟ้าถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และยังมีเทคโนโลยี e-Pedal จะเร่งแซงหรือชะลอความเร็ว ก็ปลอดภัยมั่นใจได้ในคันเร่งเดียว จึงขับขี่ได้ง่ายขึ้น นุ่มนวลขึ้น ให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์หลังพวงมาลัยที่เร้าใจยิ่งขึ้น

C40 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 จาก Volvo หลังจากที่เคยเปิด XC40 Recharge ไปก่อนหน้า โดย C40 จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Dual Motor AWD ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า พร้อมแรงบิด 660 นิวตัน-เมตร

ให้ระยะทางการขับขี่มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยแบตเตอรี่มีระบบรองรับการชาร์จเร็ว โดยใช้เวลาการชาร์จจาก 0-80% เพียง 37 นาที และยีงมีระบบการขับขี่แบบ One Pedal Drive ที่ให้การเร่ง ชะลอ และเบรกรถยนต์ได้ด้วยแป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว และเริ่มขับโดยไม่ต้องกดปุ่มสตาร์ท

สำหรับใครที่กำลังรอรถยนต์ไฟฟ้าจาก Toyota ที่ได้เปิดเผยแล้วว่ามีแผนที่จะทำการแนะนำ bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ e-TNGA BEV ออกสู่ตลาดภายในปีนี้

รวมทั้งจะพยายามส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต คงต้องรอลุ้นกันว่าจะมาเปิดตัวในงานนี้หรือไม่