BYD ไม่ได้มีแต่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วยโดย BYD Shark จะเป็นรถกระบะรุ่นแรกของค่าย ที่พร้อมลุยตลาดโลกแล้วโดยเริ่มที่แล้วที่แม็กซิโก

     BYD เข้ามาเป็นที่รู้จักในประเทศไทยภายใต้ เรเว่ ออโตโมทีฟ (Rêver Automotive) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ก็เริ่มเป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็น BYD Atto 3, BYD Dolphin และ BYD Seal ด้วยเทคโนโลยี Blade Battery ที่เป็นเอกลักษณ์

     นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) แล้วก็ยังมีรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อย่าง BYD SEAL U DM-i ที่เพิ่งเปิดรับจองสิทธิ์เพื่อรับข้อเสนอ รวมถึงสิทธิประโยชน์ไปในงาน มอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา แต่ในตลาดโลก BYD ก็ยังมีรถกระบะ Shark ซึ่งเป็นรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นแรกของค่ายที่เปิดตัวแล้วในเม็กซิโก

     BYD Shark ขับเคลื่อนด้วยกำลังจากเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีพละกำลังสูงถึง 430 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที และยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงถึง 7.5 ลิตร/100 กิโลเมตร นอกจากนี้ BYD Shark ยังมีสมรรถนะในการลากจูงได้ถึง 2,500 กิโลกรัม สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 835 กิโลกรัม และมีพื้นที่รองรับสินค้าสูงถึง 1,450 ลิตร

     เมื่อตัวรถมีการเติมน้ำมันเต็มถังพร้อมชาร์จพลังงานไฟฟ้าเต็มแล้ว จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 840 กิโลเมตร และสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ถึง 100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) โดยการชาร์จไฟนั้นสามารถชาร์จจาก 30-80% ภายในเวลาเพียง 20 นาที

     BYD Shark มากับมิติตัวถังที่มีความยาว 5,457 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,971 มิลลิเมตร ความสูง 1,925 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,260 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DMO Super Hybrid Off-Road Platform

     ส่วนการออกแบบภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ที่มากับโลโก้ BYD ขนาดใหญ่ที่ช่วยเสริมให้ BYD Shark ดูดียิ่งขึ้น ประกอบกับไฟท้ายแบบยาวคาดตามฝาท้ายกระบะที่มีโลโก้ BYD นอกจากจะช่วยให้ความสว่างและปลอดภัยยังสร้างภาพอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับรถรุ่นนี้อีกด้วย

     ภายในห้องโดยสารของ BYD Shark มีความเป็นส่วนตัว ทั้งยังใช้งานได้จริง โดยมีทั้งความทันสมัย สวยงาม ด้วยห้องโดยสารที่มีระบบอัจฉริยะผ่านหน้าจอมัลติมีเดียแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว 

     ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto และภาพพาโนรามามุมกว้าง 540 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจพบสิ่งกีดขวางเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินไปกับฟังก์ชันคาราโอเกะที่พัฒนาโดย BYD (ไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์เสริมจำหน่ายแยกต่างหาก) และแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ที่ติดตั้งไว้หลังพวงมาลัย

     ทั้งยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียง ที่จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่ได้โดยเพียงสั่งการด้วยเสียง ไม่ต้องควานหาปุ่มปรับการทำงานใด ๆ พร้อมการชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายเพื่อให้คุณไม่พลาดกับความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ราบรื่น

     เทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงเพื่อความปลอดภัยสูงสุดที่มีอยู่ใน BYD Shark นั้นมีทั้งเทคโนโลยี กุญแจ NFC ของโทรศัพท์มือถือ Apple ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ในการปลดล็อกรถด้วยการแตะโทรศัพท์มือถือบนสัญลักษณ์ NFC ซึ่งอยู่ในกระจกมองหลังของคนขับ

     ตัวถังถูกสร้างด้วยเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงถึง 54% เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และการลดน้ำหนักแต่ยังคงให้ความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ก็ยังมีระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC) ระบบนำทางอัจฉริยะ (ICC)

     ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCTA), ระบบเบรกการชนด้านหลัง (RCTB), ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) , ระบบเตือนการชนเมื่อออกนอกเลน (LCW), ระบบช่วยเปลี่ยนเลนฉุกเฉิน (ELKA), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) เป็นต้น

     นอกจากนี้ BYD Shark ยังรองรับฟังก์ชัน V2L ช่วยให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลาตอบสนองการใช้ชีวิตผจญภัยได้เป็นอย่างดี ทั้งยังควบคุมรถได้ง่ายผ่านแอปฯ มือถือ ที่ควบคุมได้ง่ายในคลิกเดียวก็จะสามารถสั่งการได้ทั้ง ปลดล็อก/ล็อกประตู, ควบคุมเครื่องปรับอากาศ, การเปิดไฟหน้า/ไฟเลี้ยวและแตร ฯลฯ ทำให้รถสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมตรวจสอบการทำงานของตัวรถได้ตลอดเวลา แม้จะอยู่ห่างออกไปไกลก็ตาม

     สำหรับ BYD Shark ที่ทำตลาดในแม็กซิโก นั้นจะมีการทำตลาดอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ GL และ GS แต่ในไทยก็ต้องรอดูว่า เรเว่ ออโตโมทีฟ จะหยิบเอารถรุ่นนี้มาทำตลาดหรือไม่เพราะรถยนต์กระบะในไทยนั้น ถึงแม้จะเริ่มมีรถ PHEV, BEV เริ่มเข้ามาทำตลาด แต่ก็มีรถยนต์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลครองเจ้าตลาดอยู่ก่อนแล้ว ในปี 2025 BYD Shark เตรียมที่จะเปิดตัวในออสเตรเลียเป็นรายต่อไป 

     ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ BYD สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<