BMW เปิดตัว The New 5 รถยนต์ซีดานพรีเมียม 2 รุ่นย่อย 520d M Sport Pro และ 530e M Sport Pro ในราคาเริ่มต้น 3.779 ล้านบาท

BMW ครองแชมป์ตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมของไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ในปี 2024 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ต่อยอดความสำเร็จอย่างแข็งแกร่งด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ยนตกรรมรุ่นใหม่รวม 10 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นก็คือรถยนต์ซีดานพรีเมียมซีรี่ส์ 5 หรือ The New 5 ที่มาพร้อมกัน 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 520d M Sport Pro ราคา 3.779 ล้านบาท และ 530e M Sport Pro ราคา 3.949 ล้านบาท ไปเริ่มกันที่รุ่นแรกกันก่อน

520d M Sport Pro

เป็น BMW ซีรีส์ 5 ขุมพลังดีเซลที่กลับมาอวดโฉมอีกครั้งด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ ที่เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่ง M Sport Pro ผสานกับชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งกรอบหน้าต่างสีดำเงา BMW Individual High-Gloss Shadow Line และชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line

ด้านหน้าตัวรถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Iconic Glow ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนล้อจะเป็นล้ออัลลอย M สีดำ Jet Black ขนาด 20 นิ้ว ลาย Star-Spoke และเบรก M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเงากับระบบกันสะเทือน M Sport เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจเข้ากับรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว

การออกแบบภายในของ 520d M Sport Pro มีการเพิ่มความหรูหราในอีกหลายจุด เริ่มด้วยเข็มขัดนิรภัย M เฉดสี Dark Silver M ตกแต่งด้วยขอบ Aluminium Rhombicle พร้อมกับพื้นผิวกระจกคริสตัลแบบ Crafted Clarity บนปุ่มควบคุมสะท้อนถึงการตกแต่งที่หรูหรา

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซนเพื่อความสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, กล้องภายในรถ, แพ็กเกจ BMW Connected Package Professional และระบบ Travel & Comfort ให้คุณพร้อมทุกการเดินทางด้วยราวแขวนเสื้อแบบโมดูลาร์และระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) ที่ล้ำสมัย

520d M Sport Pro มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ผสานกับระบบเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร และยังคงเอกลักษณ์ด้วยเทคโนโลยีการลดน้ำหนักตัวถัง Intelligent Lightweight Design ตามแบบฉบับของซีรีส์ 5

ตัวแชสซีได้รับการปรับแต่งมาเพื่อประสิทธิภาพการกระจายน้ำหนัก ทำให้รถรุ่นนี้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกลและความทรงพลัง โดยตัวรถมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 233 กม./ชม.

นอกจากนั้น 520d M Sport Pro ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ BMW Head-up Display, หน้าจอ BMW Live Cockpit Professional พร้อมหน้าจอควบคุมขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทาง ทางด้านระบบเครื่องเสียงจะเป็น HiFi จากแบรนด์ Harman Kardon และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย

สำหรับใครที่สนใจ 520d M Sport Pro นั้น ก็มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีน้ำเงิน Phytonic Blue Metallic, สีเขียว Cape York Green Metallic พร้อมเบาะ Veganza สีดำหรือน้ำตาล Espresso Brown

530e M Sport Pro

ในรุ่นนี้จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด โดยภายนอกจะใช้ชุดแต่งแบบเดียวกับ 520d M Sport Pro ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งระบบไฟหน้า BMW Individual High-gloss Shadow Line, ชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line ช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Iconic Glow ที่มาพร้อมไฟส่องสว่าง แต่ 530e M Sport Pro จะมีหลังคากระจก Panorama มาให้ด้วย

ส่วนล้อจะเป็นอัลลอยสีเทาดำขนาด 20 นิ้ว สไตล์ M Aerodynamic และเบรกแบบ M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สี Dark Blue Metallic

สำหรับการตกแต่งภายใน 530e M Sport Pro จะตกแต่งห้องโดยสารด้วยสี Dark Silver M พร้อมวัสดุตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุสีเงิน ทันทีที่เปิดประตูจะพบกับห้องโดยสารที่หรูหรา ด้วยเบาะนั่งแบบ Comfort Seat หุ้มด้วยหนัง BMW Individual Merino

นอกจากนี้ยังมากับระบบเสียง IconicSounds Electric ให้ได้สัมผัสกับระบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เพิ่มความสนุกเร้าใจให้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนระบบเสียงรอบทิศทางจะเป็นแบรนด์เครื่องเสียง Bowers & Wilkins

ส่วนขุมพลังของ 530e M Sport Pro จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 299 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ผสานพลังจากโหมด Sport Boost ทำให้ 530e M Sport Pro มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.3 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 108 กม. เมื่อขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (ตามมาตรฐาน NEDC)

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีรถคันนี้จะได้ทุกอย่างเหมือนกับ 520d M Sport Pro แต่ที่เพิ่มมาก็คือ เทคโนโลยี eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งพกพาแบตเตอรี่ขนาด 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่รองรับการชาร์จแบบ AC 7.4 กิโลวัตต์ โดยส่งความเร็วสูงสุดเมื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือระดับทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) แบบ Professional

530e M Sport Pro มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีน้ำเงิน Phytonic Blue Metallic, สีเขียว Cape York Green Metallic พร้อมเบาะ BMW Individual Merino สีดำ/เทา Atlas หรือสีน้ำตาล Copper/เทา Atlas

สำหรับราคาของ BMW ซีรีส์ 5 ทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็กเกจบำรุงรักษา BSI Standard

BMW 520d M Sport Pro ราคา 3,779,000 บาท
BMW 530e M Sport Pro ราคา 3,949,000 บาท

ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ THE NEW BMW 5 ไม่ว่าจะเป็น 520d M Sport Pro หรือ 530e M Sport Pro สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<

บทความแนะนำ

Porsche เปิดตัว The new Macan รถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าใหม่ โดยมี 2 รุ่นย่อย Macan 4 และ Macan Turbo พร้อมรับจองแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 5.39 ล้านบาท

Porsche เปิดตัว The new Macan รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รองรับระบบชาร์จไฟเร็วถึง 270 กิโลวัตต์ และเดินทางสูงถึง 613 กิโลเมตร

KIA เตรียมจำหน่าย Sorento รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ที่มาพร้อมขุมกำลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ในไทยเร็ว ๆ นี้

KIA Sorento รถเอนกประสงค์ขนาดกลาง ออกแบบใหม่ทั้งคัน ระบบเซ็นเซอร์และระบบไฟฟ้าภายในที่ครบครัน เพิ่มความปลอดภัยและสมรรถนะแข็งแรงมากขึ้น พร้อมขุมพลังไฮบริด

Toyota เตรียมนำ Prius เจนเนอเรชันที่ 5 กลับมาทำตลาดอีกครั้ง และมีแผนที่จะผลิตภายในไทย ลุ้นเปิดตัวในปีนี้

Toyota เตรียมนำ Prius รุ่น 5 ตีตลาดในไทยปี 2024 ดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจ กับการออกแบบภายในที่ใช้งานง่ายมากขึ้น พลังขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า ประหยัดน้ำมัน

Toyota Yaris Cross รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง 5 ที่นั่ง เปิดตัวแลัวที่อินโดนีเซีย และมีลุ้นเข้าไทย!

โตโยต้า อินโดนีเซีย ได้เปิดตัว All-New Yaris Cross แบบ World Premiere ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ที่สามารถรองรับ 5 ที่นั่ง เหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่ก็พร้อมรองรับกิจกรรมผจญภัย ที่สำคัญเป็นรถที่มีอัตราประหยัดน้ำมัน

อยากได้รถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้สักคัน ค่ายไหนมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

ในปัจจุบันนี้ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV กำลังมีบทบาทและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และทำความเร็วได้ดี ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้การต่อสู้กันของรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายต่างๆ นั้นดูจะเข้มข้นมากขึ้น

อะไรที่ทำให้..Honda Civic ถึงเป็นเบอร์ 1 ในตลาด C-Segment

Honda Civic ครองอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์ C-Segment โดยในตลอดนี้จะมีคู่แข่งอย่าง Toyota Altis และ Mazda 3 โดยจะมีเครื่องยนต์มากกว่า 1,500 ซีซี. - 2,000 ซีซี. โดย Civic สามารถกวาดยอดขายไปได้กว่า 60.5% ของตลาด C-Segment ส่วน Altis นั้นได้ 31.8% และ Mazda 3 ได้

รวมรถยนต์ไฮบริด..คันไหนน่าซื้อในช่วงนี้บ้างไปดูกันเลย

สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ต้องการความประหยัดก็ยังมีกลุ่มพลังงานทางเลือกหรือกลุ่มรถไฮบริด ที่จะมีระบบไฟฟ้าเข้ามาทำงานร่วมกับเครื่องยนต์

Toyota เปิดตัวรถรุ่นล่าสุดอย่าง GR Corolla รถ Sport Hatchback สายพันธุ์แชมป์ในตระกูล GR Series

ภายในงาน Motor Expo 2022 ทาง Honda ได้นำ Civic Type R อวดโฉมให้ได้ชมกันมีหรือที่ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จะยอมน้อยหน้าจึงได้ประกาศเปิดตัว GR Corolla รถ Sport Hatchback สายพันธุ์แชมป์ ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39

MINI Cooper S Convertible Resolute Edition รถเปิดประทุนระดับพรีเมียมที่มากับราคา 3.09 ล้านบาท

มินิ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ ที่ผสานรูปลักษณ์สุดสปอร์ตกับความคลาสสิคสไตล์ MINI โดยเดินเกมรุกตลาดเซกเมนต์พรีเมียมคอมแพ็ค ด้วยการเปิดตัว 2 รุ่นล่าสุด นั่นคือ MINI Cooper S Clubman Untold Edition และ MINI Cooper S Convertible Resolute Edition ที่โ

คิดจะซื้อ Camry แต่มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย เทียบชัดๆ รุ่นไหนให้อะไรบ้าง?

โตโยต้า ได้แนะนำ Camry รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ออกสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยมากับคำขวัญที่ว่า "The New CAMRY… The Absolute Perfection ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ" โดยมีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย

ดูบทความทั้งหมด คลิก

ขอสินเชื่อ จัดเลย!