รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยสำหรับผู้ที่ต้องการอยากได้อยากได้รถยนต์เอสยูวีขนาดเล็กหรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า B-SUV ที่ในปัจจุบันกำลังเป็นรถที่ตลาดกำลังให้ความนิยม อีกทั้งบรรดาบริษัทรถยนต์ต่างก็ปล่อยผลิตภัณฑ์ในรุ่นนี้ออกมาอยู่หลายรุ่น โดยรถพวกนี้มีการใช้พื้นฐานจากรถยนต์ B-Segment ที่เป็นรถเก๋งที่อยู่เหนือกว่ากลุ่ม Eco Car มาอีกขั้น โดยเราได้เลือกมาในงบประมาณ 1,000,000 บาท (โดยราคาบวกไม่เกิน 100,000 บาท) และเป็นรถแบรนด์ญี่ปุ่นเท่านั้น เราจะไปดูกันว่ามีอะไรให้เลือกบ้าง โดยเราจะเรียงลำดับจากราคาถูกไปหาแพง
HONDA BR-V ราคา 765,000-835,000 บาท
BR-V นั้นยังคงทำตลาดอยู่ถึงแม้จะมีโมเดลอื่นๆ ร่วมค่ายจะมาแชร์กลุ่มลูกค้าไปบ้าง แต่ BR-V ก็ยังคงยืนอยู่ได้ในตลาดด้วยจุดขายที่หลากหลาย ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สวยงามลงตัวกับตัวถังที่มีทั้งความกว้าง ความยาว และความสูง ทำให้ห้องโดยสารของ BR-V นั้นมีความกว้างขวาง สะดวกสบาย ทั้งยังมีให้เลือกแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง กับ 3 แถว 7 ที่นั่ง
ส่วนพละกำลังมาจากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E20 และ E85 ล่าสุดก็ได้มีข่าวถึงการปรับโฉมใหม่แล้วในประเทศอินโดนีเซีย >>สนใจ Honda BR-V คลิกดูรายละเอียดที่นี่<<
Mazda CX-3 ราคา 769,000-879,000 บาท
สำหรับ CX-3 มาพร้อมแนวคิด Leap Forward โดยทุกรุ่นย่อยจะมากับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ โดยตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรถในกลุ่ม B-SUV หรือกำลังมองหารถที่ตอบสนองความต้องการได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงความคุ้มค่า
โดยในทุกรุ่นจะมากับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ในทุกรุ่นย่อย ที่ให้กำลังถึง 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.4 กม. ที่ลืมไม่ได้คือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ที่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน และเพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย CX-3 จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ในทุกรุ่นย่อย เพื่อมอบความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้น
รวมถึงช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารบนโลกโซเชียล และอัพเดทเทรนด์ได้ทุกที่ทุกเวลากับเทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด ที่สามารถใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ด้วยระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Wireless Apple CarPlay และรองรับ Android AutoTM ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญได้โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มอบความสะดวกสบายได้อย่างแท้จริง >>สนใจ Mazda CX-3 คลิกดูรายละเอียดที่นี่<<
NISSAN KICKS 889,000-1,049,000 บาท
สำหรับ NISSAN KICKS โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี e-POWER ที่ทำให้มันขับเคลื่อนได้อย่างรถไฟฟ้า แต่ไม่ต้องเสียเวลาจอดชาร์จไฟ โดยการเติมน้ำมันใน KICKS นั้นเพียงเพื่อเอามาให้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ทำงานเพื่อปั่นไฟให้จากนั้นจะถูกส่งไปเก็บในแบตเตอรี่แล้วถูกแปลงผ่าน Inverter ก่อนส่งไปให้มอเตอร์ไฟฟ้า
สำหรับใครที่กำลังลังเล KICKS ก็มาพร้อมการรับประกันเพื่อความอุ่นใจไม่ว่าจะเป็น การรับประกันระบบ e-POWER นานถึง 5 ปี รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 10 ปี โดย KICKS โดดเด่นด้วยค่าดูแลรักษาที่ต่ำโดยค่าดูแลรักษา 5 ปี เฉลี่ยปีละ 4,000 บาท ที่สำคัญ KICKS ยังสามารถผ่านเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP ได้อีกด้วย
HONDA HR-V 979,000-1,179,000 บาท
HR-V นั้นมี 3 รุ่นย่อย ถึงแม้ตัวรุ่นท๊อปอย่าง e:HEV RS จะแพงเกินเกณฑ์ที่เรากำหนดไปนิด แต่ก็ยังมีรุ่น e:HEV E (979,000 บาท) และรุ่น e:HEV EL (1,079,000 บาท) เป็นทางเลือกอยู่
โดยทั้ง 3 รุ่น ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดีสามารถกวาดยอดจองทั่วประเทศแล้วกว่า 6,500 คัน หลังจากการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียง 1 เดือนเท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร
พร้อมทั้งสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการผ่านสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่มอบสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
TOYOTA CH-R 1,139,000 บาท
ถึงแม้จะเกินงบไปนิด 39,000 บาท แต่ C-HR รุ่นปรับปรุงใหม่ก็น่าสนใจเกินกว่าจะตัดทิ้งไป โดยจะมาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยสีภายนอกใหม่ กับหลังคา Black roof และ Silver roof และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกของรถโตโยต้า หรือ Toyota Safety Sense
ด้วย All-speed Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบ Lane Tracing Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และตอบรับทุกไลฟ์สไลต์ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว ผ่านแอปพลิเคชัน T-Connect by TOYOTA
ส่วนขุมพลังจะเป็นระบบ 4th Generation Hybrid ที่ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบ VVT-i เกียร์ E-CVT ทำให้ได้ความทนทานและประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 24.4 กม./ลิตร พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี >>สนใจ TOYOTA CH-R ดูรายละเอียดที่นี่<<
Subaru XV EyeSight 1.299 ล้าน
อีกรุ่นนึงที่น่าสนใจก็คือ Subaru XV EyeSight ระบบดวงตาอัจฉริยะเสริมความปลอดภัยด้วยฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ถึง 6 ฟังก์ชัน ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดอัตราบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในสหรัฐอเมริกาได้ถึง 85% และลดอุบัติเหตุลงถึง 61% แต่น่าเสียดายที่ราคานั้นสูงกว่างบประมาณไปถึงเกือบ 2 แสนบาท โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,299,000 บาท
ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ Subaru XV EyeSight สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
หากรถที่เราแนะนำยังไม่มีคันไหนที่ถูกใจ ลองค้นหาในเว็บไซต์ KrungsriMarket ของเรา ที่จะมีตารางผ่อนรถใหม่ในรุ่นที่คุณกำลังพิจารณาอยู่ก็ได้ ลองไปดูได้เลยที่ >>ค้นหารุ่นรถที่ถูกใจ พร้อมตารางผ่อน ที่นี่<<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว