รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!

QRCODE

ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที

เริ่มประเมินวงเงิน

หรือ

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลย

All-New Honda CR-V เจนเนอเรชันที่ 6 มากับ 2 ขุมพลัง VTEC TURBO และ ฟูลไฮบริด e:HEV ในราคา 1.419-1.729 ล้านบาท

ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดตัว All-New Honda CR-V เจนเนอเรชันที่ 6 เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปพร้อมยกระดับของรถ SUV ของฮอนด้า ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม กับขุมพลังการขับเคลื่อนระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเทอร์โบ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อม Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

All-New Honda CR-V

All-New CR-V มากับโฉมภายนอกด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ด้วย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E) ส่วนไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันเป็นแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential รวมถึงไฟตัดหมอกคู่หน้ากับไฟท้ายแบบ LED

All-New Honda CR-V 1
All-New Honda CR-V 2

ส่วนหลังคา Panoramic Sunroof ช่วยเพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายด้วยฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ

All-New Honda CR-V 3

ด้านรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD) จะถูกยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมขึ้นอีกขั้น สัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black, กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ โดยมีชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถด้วยเช่นกัน ส่วนคิ้วตกแต่งประตูข้างจะเป็นสีดำ Gloss Black พร้อมเพิ่มไฟตัดหมอกหลังให้เป็นแบบ LED และสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black ส่วนล้ออัลลอยเป็น 19 นิ้ว แบบสปอร์ต

All-New Honda CR-V 4

ด้านภายในห้องโดยสารก็กว้างขวาง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น โดยจะมีการติดตั้งไฟ Ambient Light ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน All-New CR-V ส่วนรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD) ก็เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นด้วย ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black, เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต

All-New Honda CR-V 5

พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง โดยในรุ่นเบาะ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

All-New Honda CR-V 6

ส่วนรุ่นเบาะ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาวได้อีกด้วย

All-New Honda CR-V 7
All-New Honda CR-V 7

นอกจากนี้ All-New CR-V ในรุ่น e:HEV RS 4WD ยังได้เพิ่มระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ส่วนระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง และระบบนำทาง ส่วนเครื่องเสียงของรุ่นย่อยอื่นๆ จะเป็นหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

All-New Honda CR-V 8

ส่วนขุมพลังของ All-New CR-V อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นว่ามากับ 2 ขุมพลังที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่ และจะมีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ถ้าอยากประหยัดก็ต้องเลือกเครื่องยนต์ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (ตัวนึงทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า อีกตัวทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ) กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิด 335 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) นอกจากนี้ยังมากับความสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้หลายรูปแบบ เช่น โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ และสวิตซ์โหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์

All-New Honda CR-V 9

แต่ถ้าต้องการรถที่ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต กับขุมพลังเทอร์โบ ก็ต้องเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ทำให้เป็นรถที่ขับสนุก พร้อมมอบอัตราเร่งทันใจ ด้วยกำลัง 190 แรงม้า ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT แต่ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (ในรุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

All-New Honda CR-V 10
All-New Honda CR-V 11

ช่วยให้คุณมั่นใจทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเพราะทุกรุ่นย่อยมาพร้อม Honda SENSING ที่ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่นๆ อีกมากมาย โดยมีระบบใหม่เสริมเข้ามาได้แก่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง, เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว

All-New Honda CR-V 12

สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถ All-New Honda CR-V นั้นมี 5 รุ่นย่อยให้เลือก โดยระบบฟูลไฮบริด e:HEV มี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น e:HEV RS 4WD  5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท, รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท ด้านเครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท, รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท และรุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<

บทความแนะนำ

swiper-arrow-prev
swiper-arrow-next
ขอสินเชื่อ จัดเลย!
กลับสู่ด้านบน