Toyota เตรียมนำ Prius เจนเนอเรชันที่ 5 กลับมาทำตลาดอีกครั้ง และมีแผนที่จะผลิตภายในไทย ลุ้นเปิดตัวในปีนี้

โตโยต้าได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ Hybrid ในชื่อรุ่น Prius ออกสู่ตลาดโลกในปี 1997 จนปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในรถยนต์ค่ายอื่น ๆ ก็มีระบบที่ว่ากันแทบทั้งนั้น แต่ยังไงก็ตามรถยนต์ Hybrid ยังคงเป็นรถที่สร้างชื่อได้ด้วยความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง จนมาถึง New Prius ที่เดินทางมาถึงเจนเนอเรชันที่ 5  และได้ทำการเปิดตัวในญี่ปุ่นไปเมื่อต้นปีแล้ว สำหรับในประเทศไทย Prius นั้นเคยทำตลาดแต่ก็ต้องยุติการทำตลาดไปอย่างน่าเสียดาย จนทางโตโยต้าได้นำ New Prius มาโชว์ตัว และคาดว่ามีแผนที่จะทำการผลิตในไทย พร้อมลุ้นที่จะทำการเปิดตัวอีกครั้งในปีนี้

New Prius ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Hybrid Reborn ทั้งยังได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยรูปทรงสปอร์ต ด้วยขนาดตัวถังที่มีความยาว 4,600 มม., กว้าง 1,780 มม. และ สูง 1,430 มม.

ส่วนการออกแบบภายนอกติดตั้งไฟหน้าทรง C-shaped และการออกแบบภายนอกส่วนใหญ่มีกลิ่นอายการออกแบบจาก bZ-series และ Crown โดยไฟหน้าทรง C-shaped กับไฟท้ายที่มีความยาวตามความกว้างของตัวรถ 

ส่วนการออกแบบภายในนั้นคล้ายกันกับ bZ4X ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัย, หน้าจอแสดงผลการขับขี่ที่แสดงผลมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว, หน้าจอกลาง และไฟ  Ambient light กับการรองรับผู้โดยสารถึง 5 ที่นั่ง

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นมีทั้ง 1.8 Hybrid ที่ให้กำลัง 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร เมื่อรวมกันจะได้กำลังถึง 140 แรงม้า อีกตัวจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร โดยจะมีทั้งที่เป็น Hybrid และ Plug-in Hybrid สำหรับ Hybrid จะให้กำลังจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ถึง 152 แรงม้า และแรงบิด 188 นิวตันเมตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 113 แรงม้า และแรงบิด 206 นิวตันเมตร จะได้กำลังรวม 194 แรงม้า

ส่วน Plug-in Hybrid นั้นจะให้จากเครื่องยนต์เท่ากันกับ 2.0 Hybrid แต่กำลังมอเตอร์ไฟฟ้านั้นให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร เมื่อรวมกันจะได้กำลังรวม 223 แรงม้า เลยทีเดียว แต่ New Prius ที่ทางโตโยต้านำเข้ามาจัดแสดงกันนั้นจะเป็นตัว 2.0 Hybrid ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสูงถึง 28.6 กม./ลิตร

ด้านเทคโนโลยีของ New Prius เจนเนเรชันที่ 5 ก็คือ

1. แพลทฟอร์ม TNGA  ใหม่ ที่ถูกพัฒนาจนเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ทำให้ขับขี่ได้สนุกขึ้น เพราะมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำใส่ล้อและยางได้ใหญ่ขึ้น

2. ระบบ E-Four ที่ให้มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์อื่น ๆ ช่วยให้การขับบนทางลาดชันหรือสภาพผิวถนนลื่นดีขึ้น และเลี้ยวได้เนียนตากว่าเดิมมาก

3. Toyota Safety Sense ที่มีการเพิ่มระบบตรวจจับทางด้านหลังได้กว้างกว่าเดิม พร้อมสัญญาณเตือน ที่สำคัญมีการบันทึกภาพมุมมองด้านหลังไว้อัตโนมัติด้วย นอกจากนี้ระบบ Secondary Collision Brake เมื่อระบบตรวจจับได้ว่าอาจโดนชนท้าย ระบบเบรกจะทำงานโดยอัตโนมัติ แม้ไม่ได้เหยียบแป้นเบรก 

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบอื่น ๆ อาทิ  กล้องตรวจจับพฤติกรรมของผู้ขับขี่, ระบบช่วยจอดที่ควบคุมรถให้เข้า-ออก ช่องจอดได้อัตโนมัติ, กล้องบันทึกภาพหน้ารถที่อยู่ในโมดูล ไร้สายให้รกสายตาพร้อมเก็บข้อมูลลงในระบบของตัวรถไม่ใช่ Memory Card เหมือนกล้องหน้ารถทั่วไป เป็นต้น

ส่วนการเปิดตัวในไทยของ New Prius นั้นจะมีออกมากี่ทางเลือก กี่ราคา นั้นคงต้องรอลุ้นกันเพราะแว่ว ๆ ว่าจะเปิดตัวในปีนี้ แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการรอก็มีรถของ Toyota รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป, รถยนต์ไฮบริด รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของก็สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<