รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยตั้งแต่ที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถรุ่น GR Sport ในโมเดลต่างๆ ล่าสุดนี้ก็เป็นคิวของ Corolla Altis ที่จะได้ส่งรุ่นปรับปรุงโฉมของ Corolla Altis GR Sport ที่มีมาให้เลือกกันทั้งแบบเครื่องยนต์ไฮบริดและเครื่องยนต์เบนซิน ทั้งยังเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมสมรรถนะการขับขี่ ทำให้สามารถตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต และการเดินทางให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
Corolla Altis GR Sport นี้มากับนิยาม "RACE YOUR SPORTY AMBITION...ขีดสุดความเร้าใจ อะไรก็หยุดไม่ได้" นั้นยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ, ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ หรือ QDR (Quality, Durability และReliability) ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการพัฒนาด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ มอบความมั่นใจสูงสุดกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า หรือ Toyota Safety Sense
และยังมีช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต ประกอบด้วยชุดคอยล์สปริง ปรับจูนใหม่ เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล และช็อคแอบซอร์บเบอร์ ที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือน เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้น พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลังที่พัฒนาใหม่
ทั้งนี้ Corolla Altis GR Sport จะมี 2 รุ่น นั่นคือ รุ่น HEV GR Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร(อ้างอิงจาก ECO Sticker) โดยจะเป็นเครื่องยนต์ 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT สำหรับผู้ที่มองหารถที่โดดเด่น มีสมรรถนะการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี
และรุ่น 1.8 GR Sport กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift ให้กำลัง 140 แรงม้า ที่มอบอัตราเร่งเต็มพลัง โดดเด่นด้วยสมรรถนะในการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
ด้านดีไซน์ Corolla Altis GR Sport จะสพกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ต ที่ถูกออกแบบให้รองรับการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ กับแพ็กเกจชุด GR SPORT ประกอบด้วย กันชนหน้าใหม่, กระจังหน้าใหม่, ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่, กระจกมองข้างสีดำและสเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง, ล้ออัลลอย 17 นิ้วออกแบบใหม่โดยเฉพาะ พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport บริเวณท้ายรถ
ดีไซน์ภายในสปอร์ต ตอบสนองฟีลลิ่งเรซซิ่ง สะท้อนความเป็น GR Sport ด้วยการตกแต่งเบาะหนังคู่หน้าแถบแดงดีไซน์สปอร์ตพร้อมโลโก้ GR Sport เดินตะเข็บด้ายสีแดง พนักพิงศีรษะ, Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (*เฉพาะรุ่น 1.8 GR SPORT) และปุ่มกดสตาร์ทตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ GR Sport
นอกจากนี้ยังมี หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบเปลี่ยนสีบนกระจกหน้ารถ, nanoe ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นอับและยับยั้งเชื้อโรค, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ม่านบังแดดที่กระจกหลัง และระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ ในส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รุ่นนี้ก็จะให้อย่างจุใจ อาทิ ช่องเสียบ USB แบบ Type C ในช่องเก็บของคอนโซลกลาง, หน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support), ระบบ Illuminate entry system, ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS
สำหรับสีก็จะมีให้เลือก 3 สี ที่เป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น นั่นคือ สีขาวมุก (Platinum White Pearl), สีแดง (Red Mica Metallic) และสีดำ (Attitude Black Mica) โดยจะมีราคาจำหน่าย ดังนี้ HEV GR Sport (เดิม HV Premium Safety) ราคา 1,114,000 บาท และ 1.8 GR Sport ราคา 1,059,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่น HEV Premium ราคา 994,000 บาท, 1.8 SPORT ราคา 964,000 บาท และ 1.6G ราคา 879,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ Toyota รุ่นอื่น ๆ ที่มีจำหน่ายในไทยก็สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว