เหตุผลที่ทำให้ BYD ATTO 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าซื้อ?

อย่างแรกที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของดีไซน์ โดย ATTO 3 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบรถเอสูวีแบบ B เซกเมนต์ 5 ที่นั่ง โดยมากับการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face ซึ่งมีกระจังหน้าแบบปิดทึบตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องอาศัยลมผ่านช่องกระจังหน้าเพื่อช่วยระบายความร้อน ในเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในบ้านเราจะเป็นโลโก้แบรนด์ BYD ซึ่งต่างจากที่ขายในจีนที่จะแปะตัวอักษรคำว่าหยวนเอาไว้ ด้านไฟหน้าเป็นดีไซน์ Dragon Crystal LED ที่มี Daytime Running Light แบบ LED พร้อมระบบ Follow-me-home ส่วนไฟท้ายเป็น LED ที่ดูพริ้วไหว พร้อมตกแต่งที่บริเวณเสา C ด้านท้ายด้วยวัสดุที่เป็นโครเมียมลวยลายคล้ายเกล็ดมังกร โดยตัวรถจะมีความสูงจากพื้นถึงแบตเตอรี่อยู่ที่ 175 มม. 

ในส่วนของดีไซน์ภายในจะตกแต่งด้วยสีทูโทน (น้ำเงิน-เทา) ดูเรียบๆ แต่ให้ความหรูหราลงตัว โดดเด่นกว่าด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับใช้ได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน, ลำโพง 8 ตำแหน่ง, ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย หรือ  Wireless Charger, เบาะหลังสามารถพับแบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 1,330 ลิตร เป็นต้น 

อีกซึ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ BYD ก็คือ เป็นแบรนด์ที่มีความชำนาญในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก่อนตั้งแต่ในช่วงกลางของยุค 90 ก่อนจะพัฒนามาสู่วงการรถยนต์จนในที่สุดก็เป็นแบรนด์ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลกเนื่องมาจาก การคิดค้นและพัฒนา Blade Battery ที่มีลักษณะพิเศษ คือ บาง และ ยาว คล้ายใบมีด เมื่อนำมาเรียงต่อกันโดยเว้นระยะเอาไว้เพื่อระบายความร้อนช่วยให้ลดโอกาสการเกิดความร้อนสูงเมื่อได้รับการกระแทกได้มากขึ้น 

และสมรรถนะของ ATTO 3 ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ไว้ที่คู่ล้อหน้าให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 204 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที สามารถขับเคลื่อนได้ไกล 480 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NDEC) หรือ 420 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยเป็นมอเตอร์ขนาด 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ 410 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NDEC) หรือ 345 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยเป็นมอเตอร์ขนาด 49.92 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในส่วนของหัวชาร์จจะรองรับทั้ง Domestic 3-pin Plug AC Charger และ AC Charging Port-Type 2 ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรอดูว่า ทาง Rêver Automotive จะเอามาทำตลาดในสเปคไหนกันแน่ ประกอบกับทาง  ATTO 3 จะมาพร้อมความปลอดภัยที่คาดว่าจะให้มาแบบครบๆ นั่นคือ ระบบเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร และ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ฯลฯ

สำหรับผู้ที่สนใจ ATTO 3 ทาง Rêver Automotive ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะทำการเปิดตัวในไทยในวันที่ 10 ตุลาคม หรือ 10.10 ซึ่งจะเริ่มเปิดรับสำรวจความสนใจของลูกค้า แต่ยังไม่มีนโยบายเปิดรับจองใดๆ ในช่วงนี้ 

แต่ที่สิ่งที่น่าสนใจก็คือราคาถึงแม้ยังไม่มีการเปิดราคาออกมาแต่ก็เชื่อว่าจากการลงทุนของ บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด ทำการซื้อที่ดินกับทาง WHA Group เป็นจำนวน 600 ไร่ น่าจะการันตีความน่าเชื่อถือในสายป่านของการลงทุนในประเทศไทย 

และนอกจากนี้ยังได้ร่วมลงนามแสดงเจตจำนงเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในไทย ด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ได้รับส่วนลดภาษีจากการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐทำให้ราคาจำหน่ายถูกลงกว่า 150,000 บาท ซึ่งคาดการณ์ว่าราคา ขั้นต้นคงเริ่มสตาร์ทที่ 7-8 แสนบาท และจะสูงสุดที่ 1-1.2 ล้านบาท 

ท้ายสุดเลยสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่ห่วงก็คือศูนย์บริการจะมีมารองรับมั้ย ในส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่เห็นจุดหลักในการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาเพื่อรองรับผู้ที่สนใจใน BYD ซึ่งทาง Rêver Automotive วางแผนที่จะให้มีจำหน่ายในทุกจังหวัด โดยจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการ ตามแผนในปีนี้จะมีตัวแทนจำหน่าย 31 แห่ง และจะพัฒนาให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในอนาคต 

สำหรับผู้ที่สนใจรถ BYD ATTO 3 คงต้องรอเปิดตัวกันก่อน แต่ถ้าสนใจวางแผนจะออกปีนี้ เช็กวงเงินประเมินสำหรับออกรถกับเราก่อนได้ที่
>> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<