The new Mercedes-Benz C-Class มี 2 รุ่นให้เลือก แล้วมันแตกต่างกันยังไง

โดยทั้งคู่จะมากับขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร (1,993 ซีซี) ที่พัฒนาใหม่พร้อมระบบ Mild-HYBRID สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 15 กิโลวัตต์ ทำให้ The new C-Class มีกำลังมากถึง 200 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที และทำความเร็วได้สูงสุด 245 ก.ม./ช.ม. พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC) ที่จะขาดไม่ได้คือถังน้ำมันมีความจุ 66 ลิตร 

โดย C 220 d Avantgarde จำหน่ายในราคา 2,590,000 บาท แต่สิ่งที่คุณจะได้ถ้ายอมจ่ายราคานี้นั่นก็คือ ระบบความปลอดภัยแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตําแหน่ง, ด้านข้าง 2 ตําแหน่ง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ปกป้องศรีษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร กับถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า สำหรับผู้ขับขี่ อีกทั้งยังมี โปรแกรมควบคมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP, ระบบเบรก ABS, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill - Start Assist, ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ, Cruise control และระบบจำกัดความเร็ว, ระบบเตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู และ ระบบแจ้งเตือนสถานะเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง เท่าที่ให้มาก็ถือว่ามากมายเลยทีเดียว

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกดูโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED high-performance มีการปรับขนาดโคมไฟให้เล็กและเรียวขึ้นพร้อมความสว่างที่กว้างไกลกว่าเดิม, ไฟส่องทางใต้กระจกมองข้าง ตรา Mercedes-Benz, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างที่สามารถปรับระดับและพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า กับ กระจกมองข้างด้านผู้ขับ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ กับ ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 

กับการตกแต่งรอบคันแบบ Avantgarde bodystyling ด้วยชุดกันชนหน้าหลังดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยแบบ multi- spoke ขนาด 18 นิ้ว ที่มากับยาง Run-flat ขนาด 225/45R18 ในล้อหน้า และ 245/40R18 ในล้อหลัง กับช่วงล่างแบบ AGILITY CONTROL ทั้งยังมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS - GO comfort package, ระบบเปิด-ปิด ฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ และ แผ่นรองกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง ด้วยตัวรถรุ่นนี้มีขนาดกว้างขึ้นในทุกมิติทำให้บริเวณด้านหลังมีเฮดรูม และระยะเข่าด้านหลังเพิ่มขึ้น ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ด้านอุปกรณ์ภายในเหมือนกับยกการตกแต่งมาจากรุ่น S-Class โดยในรุ่น C 220 d Avantgarde จะมีฟังก์ชั่น ECO start / stop และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Remote engine start, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT, เบาะนั่งแบบ Comfort seats โดยเบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าพร้อมบันทึกตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง อีกทั้งเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้แบบ 1/3 และ 2/3, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านหุ้มด้วยหนังพร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ส่วนการตกแต่งห้องโดยสารตกแต่งแบบ AVANTGARDE interior โดยใช้ วัสดุตกแต่งแบบ Silver grey diamond-pattern trim กับแผงคอนโซลกลางแบบ criss - cross look, silver grey โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลคมชัด ให้ภาพที่อ่านง่ายในทุกสภาพแสง สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ "Classic", "Progressive" and "Sporty" พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service กับหน้าจอคอนโซลกลางขนาด 11.9 นิ้ว ที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย เพิ่มพื้นที่หน้าจอมากกว่ารุ่นเดิมมากกว่า 100% ทั้งยังมีไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี, ระบบ Wireless charging เพื่อรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือ

ระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ และ ช่อง USB Type C 2 ช่อง บริเวณที่เท้าแขนสำหรับที่นั่งคู่หน้า ส่วนระบบความบันเทิงและการสื่อสารของรุ่น C 220 d Avantgarde นั้นจะได้ ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทั้ง iOS (Apple CarPlay) และ Android (Android Auto) และระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน และระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) และอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สำหรับ Mercedes me connect

แต่ถ้าคุณเลือกรุ่นที่แพงกว่าอย่าง  C 220 d AMG Dynamic ในราคา 2,990,000 บาท นั่นคือคุณต้องจ่ายเพิ่ม 409,000 บาท สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มขึ้น เริ่มจากดีไซน์ภายนอกนั่นคือ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) กับกระจังหน้าแบบ Mercedes -Benz pattern พร้อมตราสัญลักษณ์ 

กับการตกแต่งรอบคันด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling และช่วงล่างแบบ Sports suspension พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi - spoke ขนาด 19 นิ้ว กับยางรถยนต์พร้อมโฟมเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนขนาด 225/40R19 ในล้อหน้า และ 255/35R19 ในล้อหลัง กับจานเบรกคู่หน้าขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อน, อุปกรณ์ปะยางแบบฉุกเฉิน TIREFIT และที่สำคัญจะได้พาโนรามิคซันรูฟที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

ด้านอุปกรณ์ภายในสิ่งที่รุ่นนี้จะได้เพิ่มเติมคือ เบาะนั่งแบบ Sport seats, กับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa พร้อมพร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control กับชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต และ พรมปูพื้น AMG ส่วนการตกแต่งห้องโดยสารในรุ่นนี้จะเป็นแบบ AMG Line interior ด้วยวัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Black open-pore aluminium lines wood trim ส่วนด้านบนของคอนโซลหน้า (Instrument panel) และด้านบนของแผงประตู หุ้มด้วยหนัง ARTICO ตกแต่งลายแบบ Nappa บริเวณแผงคอนโซลกลางเป็น high- gloss black สีดำ  

ระบบความบันเทิงและการสื่อสารในรุ่นนี้จะเพิ่มเพียงเล็กน้อย เริ่มด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system, ระบบมัลติมีเดีย MBUX entertainment พร้อมเชื่อมต่อ Music streaming service, ระบบปรับรูปแบบเครื่องเสียงแบบส่วนตัว (Sound personalization), ระบบแผนที่นําทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ และ ระบบแผนที่นําทาง พร้อมสภาพการจราจร Live Traffic Information 

นี่คือความแตกต่างกันของ C 220 d Avantgarde กับ C 220 d AMG Dynamic ที่คุณจะสัมผัสได้จาก The new C-Class ในรหัสตัวถัง W206 นี้

ถ้า Mercedes-Benz New C-Class คือรุ่นที่คุณสนใจอยากออกในช่วงนี้ อยากรู้ว่ายื่นขอวงเงินพอมั้ย มาประเมินก่อนได้ที่

กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่