BYD M6 รถเอ็มพีวีไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก พร้อมขับขี่ได้ไกล 500 กิโลเมตร ที่สำคัญเตรียมเปิดตัวในไทยเร็ว ๆ นี้

     ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา เรเว่ ออโตโมทีฟ (Rêver Automotive) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวพร้อมนำรถ BYD รุ่นต่าง ๆ และหนึ่งในนั้นคือ Song Max ไปจัดแสดงภายในงานฯ

     และเมื่อไม่นานมานี้ก็จัดกิจกรรม พาสื่อมวลชนสายยานยนต์ไปทดลองขับกันที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจก็คือ Song Max หรือชื่อใหม่ที่จะทำการตลาดต่อไปว่า BYD M6 ที่มีพื้นฐานเดียวกับ BYD e6 (เจเนอเรชัน 2)

     สำหรับ BYD M6 เป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มากับแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 CTP Blade Battery + BYD Intelligent Driving System ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบ 8 in 1 ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าโดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) แรงบิด 310 นิวตันเมตร จับคู่กับเทคโนโลยี BYD Blade Battery ประเภท LFP ที่มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 71.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง

     สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ทั้งยังมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 8.6 วินาที นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบกระแสตรง (DC) ที่ความแรงสูงสุด 115 กิโลวัตต์ โดยใช้เวลา 40 นาที (SOC 10%-80%) และการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC) ที่ 7 กิโลวัตต์ นาน 28 นาที (SOC 30%-80%) พร้อมรองรับระบบ VtoL

     BYD M6 มากับขนาดตัวถังอยู่ที่ ยาว 4,710 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,690 มิลลิเมตร โดยเป็นหนึ่งในรถที่ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Dynasty Series หรือใช้ชื่อตามราชวงศ์ของจีน (ชื่อเติมคือ Song Max) ที่ผสมผสานความเรียบง่าย ทันสมัย ทำให้ได้ตัวรถเอ็มพีวีที่สวยงามด้วยสัดส่วนที่ลงตัว

     ส่วนหน้าตาถ้ามองแว๊บแรกก็ดูจะคล้ายกันกับ BYD ATTO 3 อาจเพราะในส่วนกระจังหน้าเป็นแบบปิดทึบเหมือนกัน กับชุดไฟหน้าที่เป็น LED ทรงยาวที่มีดีไซน์มาจากตาของมังกร กับช่องปรับอากาศที่หยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากชุดเกราะทหารสมัยโบราณ ส่วนด้านข้างดูแข็งแกร่ง สำหรับด้านท้ายมากับทรงเรียวยาวที่มีการเชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

     ภายในห้องโดยสารของ BYD M6 ที่เปิดจำหน่ายในต่างประเทศนั้นจะมีทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ให้เลือก (แต่รุ่นที่นำมาให้ได้สัมผัสกันเป็น 7 ที่นั่ง) ที่ออกแบบมาอย่างปราณีตให้ได้สัดส่วนที่สมมาตรกัน อาทิ แท่นวางโทรศัพท์มือถือ 2 ตำแหน่ง พร้อมที่ชาร์จแบบไร้สาย หัวเกียร์ทรงลูกบอล ที่ให้ความสะดวกต่อการควบคุม และสัมผัสแบบโปร่งแสงที่ตกแต่งด้วยการแกะสลักอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถในตระกูล Dynasty

     นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ ที่มีม่านบังแดดไฟฟ้าแบบป้องกันรังสียูวี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิทั้งห้องโดยสารได้อย่างรวดเร็ว โดยจะมีตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ช่วยให้อากาศสะอาด และเย็นสบายควบคู่ไปกับการระบายความร้อนของแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหน้าจอระบบมัลติมีเดียมีขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยไฟฟ้า รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto กับลำโพงรอบคันถึง 6 จุด พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน 

     BYD M6 ยังมากับระบบความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ

• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
• ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
• ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HHC)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
• ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
• ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
• ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
• ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
• ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ กล้องมองรอบคัน 360 องศา
• ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (ACC-S&G)
• เซนเซอร์ช่วยจอด 4 ตำแหน่ง
• ระบบเตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ (LDA)

     ในส่วนของราคานั้นยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวของ BYD M6 ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็เชื่อว่านี่คือหนึ่งในรุ่นสำคัญที่อยู่ในลิสต์ของ BYD ที่จะมาทำตลาดในเร็วๆ นี้ แต่ถ้าคุณไม่อยากรอ หรือเป็นผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ BYD รุ่นอื่นๆ อยู่แล้วล่ะก็ สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<