Isuzu พร้อมก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เผยโฉม D-Max Hi-Lander MHEV และ D-Max EV ที่จะผลิตในไทย และส่งออกในปี 2025

     นับเป็นกระแสทันทีเมื่อ อีซูซุ ผู้นำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มากว่า 8 ทศวรรษ ออกมาประกาศ นโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ ผ่านโซลูชั่นส์อันหลากหลายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้รถ โดยได้มีการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซลประเภทต่าง ๆ เพื่อเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ความเป็นมิตรกับผู้ใช้รถ, ความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่องในการดำเนินงาน 

     ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญ และมีการผลิตต่อปีมากถึง 1.8 - 1.9 ล้านคัน ถือว่าเป็นยอดสูงที่สุดในอาเซียน ถือเป็นอันดับ 10 ของโลก และเป็นรถที่ส่งออกมากที่สุดถึง 786,383 คัน คิดเป็น 70% จากรถทุกประเภท 

     สำหรับใครที่กำลังรอรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ญี่ปุ่นรายนี้ก็อดใจรออีกนิด เพราะ อีซูซุ ได้เผยโฉม D-Max Hi-Lander MHEV และ D-Max EV Concept มีแผนที่จะผลิตเพื่อส่งออกรถกระบะไฟฟ้า โดยเริ่มจากประเทศในโซนยุโรปในปี 2025 จากนั้นจะทยอยเปิดตัวในประเทศอื่น ๆ ต่อไป

Isuzu D-Max EV Concept

     เป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่มากับตัวถังแบบ 4 ประตู ที่ยังใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ D-Max ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ดีเซล) ส่วนการออกแบบภายนอกมีการออกแบบให้แตกต่างจาก D-Max ทั่วไป โดยด้านหน้าจะใช้ชิ้นส่วนสีฟ้าเพื่อสื่อถึงการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังหน้าที่ดูปิดทึบตามสไตล์ของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

     ส่วนของการขับเคลื่อนรถคันนี้จะมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time โดยจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ที่ให้กำลัง 130 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมกัน 325 นิวตันเมตร และเฟืองท้ายภายใต้ eAxle (ด้านหน้ากำลัง 40 กิโลวัตต์ แรงบิด 108 นิวตันเมตร กับด้านหลังกำลัง 90 กิโลวัตต์ แรงบิด 217 นิวตันเมตร) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

     ผสานกับช่วงล่างด้านหลังใหม่ แบบ De-Dion ทำให้เหมาะกับการใช้งานทุกสภาพถนน พร้อมแบตแบตเตอรี่แบบ ลิเธียมไอออน ที่มีความจุ 66.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 130 กิโลเมตร/ ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 300 กิโลเมตร ทั้งยังสามารถลากจูงได้ถึง 3.5 ตัน และรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 1 ตัน

     Isuzu D-Max EV มีแผนที่จะผลิตเพื่อส่งออกอย่างเป็นทางการจากฐานการผลิตที่ประเทศไทยในปี 2025 เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้รถ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวในประเทศภาคพื้นทวีปยุโรปบางประเทศ เช่น นอร์เวย์ จากนั้นถึงจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, ไทย ตลอดจนประเทศอื่น ๆ ต่อไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและความพร้อมของระบบสถานีชาร์จด้วย

D-Max Hi-Lander MHEV

     D-Max Hi-Lander MHEV จะมากับ D-Max 4 ประตู ยกสูง ที่จะใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 1.9 Ddi Blue Power ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก และแบตเตอรี่ขนาด 48 โวลต์ เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยลด CO2

     แต่ D-Max Hi-Lander MHEV คันนี้เป็นรถ "ทดลอง" ประกอบเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้าในการลด CO2  โดยรถประเภทนี้อาจจะเหมาะกับความต้องการของลูกค้าบางกลุ่ม ซึ่งเราอยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนกำหนดแผนการจำหน่ายต่อไป (ต้องติดตามกันดี ๆ)

     นอกจากนี้ Isuzu ยังนำ Elf EV ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Isuzu Modular Architecture and Component Standard : I-MACS” สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ ในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ 4X2 (ขับเคลื่อนล้อหลัง) กับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ที่มีความจุ 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยมีกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ แรงบิด 370 นิวตันเมตร พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) 

     อีกรุ่นก็คือ Elf FCEV หรือ รถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลางเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่พัฒนาร่วมกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ ภายใต้โครงการ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) เหมาะกับการใช้งานบรรทุกหนัก สามารถเติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เป็นการเพิ่มตัวเลือกรถบรรทุกในตลาด ตอบรับกับความต้องการก้าวสู่ยุคความเป็นกลางทางคาร์บอน (ประเทศไทยได้มีการวิ่งทดสอบแล้วจำนวน 4 คัน เมื่อเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2023

     สำหรับเทคโนโลยี และราคา D-Max Hi-Lander MHEV และ D-Max EV นั้นยังไม่มีอะไรเปิดเผยออกมามากนัก เพราะคันนึงก็รถทอลอง อีกคันก็รถต้นแบบ แต่ถ้าคุณมีความสนใจ D-Max EV เป็นที่แน่นอนแล้วว่า มาแน่..แต่รอหน่อย

     ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ Isuzu D-Max รุ่นเครื่องยนต์สันดาป ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน อย่างเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร ก็สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<