รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้
พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!
ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที
หรือ
ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ
เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลยHonda City เป็นรถซิตี้คาร์ยอดนิยมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ด้วยยอดขายสะสมเกือบ 800,000 คัน นับตั้งแต่ City ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นหนึ่งในรถที่เป็นทางเลือกของลูกค้าเรื่อยมา แล้วก็มาถึงเวลาที่ ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้ปรับโฉม ซึ่งก็ได้ยกระดับความสปอร์ตให้เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน โดนจะเป็นโฉม Sedan (4ประตู) คาดว่าน่าจะมีการปรับโฉม Hatchback (5ประตู) ตามมาในภายหลัง และนอกจากนี้ยังได้มีการปรับเพิ่มรุ่นย่อยให้เป็นทางเลือกด้วย
ดีไซน์ภายนอกของ New City มีการปรับเพิ่มความสปอร์ตรอบคันด้วย กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ที่มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กับไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED ส่วนกระจังหน้าแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย ส่วนล้อจะเป็นล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ในรุ่น V ส่วนรุ่น SV จะเป็นแบบทูโทน และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น e:HEV SV
ส่วนรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS นั้นก็ได้เสริมความสปอร์ตรอบคันยิ่งขึ้นด้วย กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่, กันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่แบบ RS, สปอยเลอร์หลังแบบ RS, ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กับไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ส่วนล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
สะดวกสบายไปอีกขั้น กับห้องโดยสารใหม่ของ New City โดยจะตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุสีเงิน (รุ่น V) และสีดำ Piano Black (รุ่น SV และ e:HEV SV) ส่วนเบาะที่ได้จะเป็นเบาะผ้า (รุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (รุ่น SV และ e:HEV SV) ส่วนรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS จะตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุตกแต่งสีแดงเมทัลลิก กับเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในก็ได้รับการปรับมาหลายรายการ ประกอบด้วย มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ส่วนเครื่องเสียงจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย
ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน, ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS), ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ด้านแอร์จะเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) และระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
ด้านขุมพลังของ New City จะมากับ 2 ทางเลือก ประกอบด้วย
มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างที่ด้านหน้าตัวรถ เพื่อช่วยตรวจจับรถยนต์, คนเดินถนน, จักรยาน และจักรยานยนต์ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
นอกจากนี้ก็ยังมี ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (รุ่น e:HEV RS), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และ สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ฯลฯ
โดยทาง Honda ให้คุณเป็นเจ้าของ New City ได้ง่ายขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.09%** พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี** และเฉพาะรุ่น e:HEV เพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเป็น 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2566 – 30 กันยายน 2566** สำหรับราคาจำหน่ายทั้ง 5 รุ่นย่อย มีดังนี้
หมายเหตุ:
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ New Honda City สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<
ประเมินวงเงินฟรีใน 3 นาที!
(ไม่ต้องใช้เอกสาร)
พร้อมออกรถคันใหม่ด้วยวงเงิน
จาก กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
หรือหากเคยประเมินแล้ว