AVATR 12 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานคูเป้ ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง และเกิดจากความร่วมมือกันของ 3 ยักษ์ใหญ่ของจีน ออกจากสายการผลิตแล้วลุ้นให้เข้ามาขายในไทยเร็ว ๆ นี้

     AVATR 12 เคยถูกพามาโชว์ตัวให้ชมกันแล้วตั้งแต่งาน Motor Expo 2023 (ในงาน Motor Show 2024 จะเป็น AVATR 11) เพื่อเอามาดูกระแสการตอบรับของตลาดรถยนต์เมืองไทยในขณะนั้น โดยเป็นแบรนด์ย่อยของ CHANGAN ที่มี 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย AVATR แบรนด์อัจฉริยะระดับพรีเมียมที่เน้นความหรูหรา ที่เกิดจากความร่วมมือกันของ CHANGAN Automobile, CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ และ Huawei ผู้นำในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือ

     นอกจากนี้ก็มีแบรนด์ NEVO ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยรถยนต์ในกลุ่มใหม่ ๆ และแบรนด์ DEEPAL ที่ทำตลาดอยู่ในเมืองไทยอยู่ในขณะนี้ด้วย S07, L07 และ LUMIN โดย AVATR 12 นั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร/การชาร์จเต็มเพียง 1 ครั้ง

     สำหรับสมรรถนะของ AVATR 12 ตามสเปคที่จีนนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่นย่อย คือรุ่น 700 Three-Lidar RWD Intelligent Edition, รุ่น 700 Three-Lidar RWD Luxury Edition, รุ่น 650 Three-Lidar AWD Performance Edition และ รุ่น 650 Three-Lidar AWD GT Edition ซึ่งจะแบ่งออกเป็นรุ่นที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (มอเตอร์เดี่ยว) กับรุ่นที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (มอเตอร์คู่) 

• มอเตอร์เดี่ยว (ขับเคลื่อนล้อหลัง) นั้นได้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 230 กิโลวัตต์ (308.44 แรงม้า) แรงบิด 370 นิวตันเมตร คู่กับแบตเตอรี่ Ternary lithium battery ที่มีความจุอยู่ที่ 94.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยกำลังชาร์จ 240 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-80% ได้ภายใน 30 นาที, ชาร์จ 240 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 30-80% ได้ภายใน 20 นาที และ การชาร์จปกติที่ 11 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลาน้อยกว่า 11 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 700 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 6.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 215 กิโลเมตร/ชั่วโมง

• มอเตอร์คู่ (ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD) นั้นได้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 195 กิโลวัตต์ (261.15 แรงม้า) แรงบิด 280 นิวตันเมตร บวกกับกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าหลัง 230 กิโลวัตต์ (308.44 แรงม้า) แรงบิด 370 นิวตันเมตร เมื่อรวมกำลังทั้งหมดจะได้อยู่ที่ 425 กิโลวัตต์ (569.93 แรงม้า) แรงบิด 650 นิวตันเมตร คู่กับแบตเตอรี่ Ternary Lithium Battery ที่มีความจุอยู่ที่ 94.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
  
  รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยกำลังชาร์จ 240 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-80% ได้ภายใน 30 นาที, ชาร์จ 240 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 30-80% ได้ภายใน 20 นาที และการชาร์จปกติที่ 11 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลาน้อยกว่า 11 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 650 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง

     AVATR 12 นั้นจะมากับมิติตัวถังที่มีความยาว 5,020 มิลลิเมตร กว้าง 1,999 มิลลิเมตร และสูง 1,460 มิลลิเมตร กับการออกแบบตัวถังภายนอกในส่วนไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่เป็นเส้นเรียวเล็ก ในด้านหน้าจะมากับ Day Time Running Lights ที่เป็นเส้นยาวมาถึงแนวกันชนด้านล่าง ส่วนเส้นสายด้านข้างมือเปิดประตูนั้นถูกซ่อนเรียบไปกับตัวถัง และประตูที่ไม่มีขอบกระจก ส่วนกระจกมองข้างจะเป็นกล้องแบบ FHD และติดตั้งกล้องไว้ที่ด้านข้างทำให้รถมีการแสดงภาพแบบ 360 องศา (AVM) ส่วนล้ออัลลอยจะมีขนาด 20 นิ้ว และ 21 นิ้วที่ถูกติดตั้งคาลิปเปอร์เบรก Brembo (แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย) นอกจากนี้ยังมีสปอยเลอร์ปรับความเร็วได้แบบอัตโนมัติบริเวณฝากระโปรง

     ส่วนภายในห้องโดยสารของ AVATR 12 นั้นมากับการออกแบบที่ล้ำสมัย โดยเบาะที่นั่งจะมีทั้ง หนัง Microfiber หนัง Nappa (แต่ละรุ่นย่อย) พร้อมระบบปรับด้วยไฟฟ้า (6-8 ทิศทาง) พร้อมพนักพิงศรีษะเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง ระบบทำความร้อนเบาะ (หน้า-หลัง) ระบบนวด ระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่ง ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันที่หุ้มด้วยหนัง Nappa และยังมีระบบทำความร้อนที่พวงมาลัย ปรับระยะด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง 

     ส่วนวัสดุหลังคาจะมีทั้งที่ทำจากผ้า และหนังกลับให้เลือก ไฟแอมเบี้ยนไลท์แบบ 3D 64 สี ส่วนระบบเครื่องเสียงจะมากับลำโพง 14 ตัว กับ 27 ตัว ที่จะปรับเสียงตามความเร็ว และ ASE Sound Wave ส่วนหน้าจอภายในจะติดตั้งจอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาขนาด 35.4 นิ้ว ที่มีความคมชัดแบบ 4K กับหน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว กับระบบปฏิบัติ Hamony OS ทำให้สามารถโต้ตอบกับรถด้วยการสั่งงานด้วยเสียง รองรับการสื่อสาร 5G จดจำใบหน้า ท่าทาง จุดชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 2 เครื่อง ฯลฯ 

     ด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยของ AVATR 12 นั้น รถคันนี้ถูกพัฒนาให้มีการใช้งานแพลตฟอร์มการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ และระบบตรวจจับขั้นสูงที่ใช้ เรดาร์เลเซอร์ 3 จุด เรดาร์แบบ Millimeter-Wave 3 จุด กล้อง HD 11 จุด และเรดาร์ Ultrasonic-Wave 12 จุด

     นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนต่าง ๆ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนการชน การจดจำป้ายจราจร และไฟจราจร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี ระบบช่วยนำทางบนทางหลวง (Highway Navigation Cruising Assist) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติในเมือง ระบบช่วยนำทางในเมือง และระบบช่วยจอดอัจฉริยะอีก 3 ระบบมาให้ด้วย

     ในขณะนี้ถึงแม้ AVATR 12 จะเคยมาโชว์ตัวในไทยไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัดว่าจะมีการเปิดตัวเมื่อไหร่ แต่ถึงอย่างไรก็ดีมีการพบเห็นว่า AVATR 11 นั้นทำการวิ่งทดสอบแล้วในไทย ก็เป็นไปได้ว่า AVATR น่าจะมาแน่ ๆ โดย AVATR 11 จะเป็นรถสไลต์เอสยูวี และ AVATR 12 เป็นรถสไตล์ซีดานคูเป้

     ถึงแม้ AVATR 12 จะยังไม่มีการกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าสนใจจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าของ CHANGAN สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<