รู้วงเงินก่อนออกรถ ผ่านมือถือ
กับกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท
สแกนเลย!

QRCODE

ประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
รู้ผลใน 3 นาที

เริ่มประเมินวงเงิน

หรือ

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

เคยประเมินแล้ว ดูวงเงินเลย

Honda Civic e:HEV ฟังก์ชันเพียบพร้อม Honda SENSING ในราคา 1.129-1.259 ล้านบาท

หลังจากที่ ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้เผยโฉม Honda Civic e:HEV ไปแล้วในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมมาโดยยังไม่ได้มีการประกาศราคาออกมา แต่ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่าจะมีประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมาในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งราคาที่ประกาศออกมาก็คือ 

  • รุ่น e:HEV EL+ จะจำหน่ายในราคา 1,129,000 บาท 
  • รุ่น e:HEV RS จะจำหน่ายในราคา 1,259,000 บาท 

โดย Civic ในรุ่นนี้เป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานไอคอน ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และหรูหรายิ่งขึ้น มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING 

ทำให้ Honda Civic e:HEV เป็นรถที่พร้อมตอบสนองการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดยที่ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV เป็นการผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ) กับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC ที่ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า และแรงบิด 182 นิวตันเมตร เมื่อทำงานรวมกันจะให้กำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า และแรงบิด 315 นิวตันเมตร โดยเครื่องรุ่นนี้จะรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง E20 ในขณะที่รุ่น 1.5 Turbo นั้นจะรองรับได้ถึง E85 ส่วนเกียร์ใน Civic e:HEV จะเป็นแบบ E-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission) ทำให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร 

ทั้งนี้ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย 

ด้านดีไซน์ Honda Civic e:HEV มากับการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมอง โดดเด่นด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า ที่บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฮบริด และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย ส่วนอื่นๆ นั้นก็จะมีกระจังหน้าและกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต, ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED, เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีใหม่

 ขยับมาที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย ที่จะเชื่อมต่อคุณและรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่หลากหลาย อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องปรับอากาศและช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นต้น โดยในรุ่น e:HEV EL+ และสีภายในของรุ่น e:HEV EL+ มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก

ส่วนในรุ่น e:HEV RS นั้นเพิ่มความสปอร์ตพรีเมียมด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมสัญลักษณ์ RS, กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต, ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างสีดำ, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ในส่วนด้านท้าย โดดเด่นด้วยท่อไอเสียพร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว  

ภายในห้องโดยสารรุ่น e:HEV RS จะเป็นสีดำเท่านั้น สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมด้วยเบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ, แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสารซึ่งเป็นครั้งแรกใน Honda Civic

ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ที่ดูเรียบหรู พกพาสะดวก ให้คุณล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

อุปกรณ์ Wireless Charger, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, ช่องปรับอากาศและช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เป็นต้น

ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • /ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) 
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) /ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) 
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่, กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, ระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ

ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง, ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย, เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว เป็นต้น

สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS สีดำคริสตัล (มุก), สีขาวแพลทินัม (มุก), สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) โดยใครที่กำลังสนใจ Honda Civic e:HEV ที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันนี้– 31 กรกฎาคม 2565 จะได้รับ ดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี เสื้อแจ็กเกต e:HEV มูลค่า 500 บาท นอกจากนี้ ยังมอบแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย เพื่อเสริมความมั่นใจในการขับขี่ ได้แก่

  • รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 7,158.50 บาท

(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ)

ทั้งยังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo ที่มาพร้อมกับแนวคิด Make the CIVIC 3F (Fashion, Function and Featured) โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก, แป้นวางเท้าแบบสปอร์ต, คิ้วบันได LED, ฝาครอบกระจกมองข้าง, คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า, ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส, คิ้วตกแต่งกระจังหน้า, คิ้วตกแต่งกันชนหลัง, ไฟส่องสว่างที่เท้า เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 

  • Sport Package ราคา 8,900 บาท ประกอบด้วย คิ้วตกแต่งกระจังหน้า และ คิ้วตกแต่งกันชนหลัง
  • Exclusive Sport Package ราคา 17,200 บาท ประกอบด้วย คิ้วตกแต่งกระจังหน้า คิ้วตกแต่งกันชนหลัง 

และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก

  • Modulo Aero Package ราคา 18,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง 

 

ถ้า Honda Civic e:HEV  คือรุ่นที่คุณสนใจ วางแผนจะออกปีนี้ เช็กวงเงินประเมินสำหรับออกรถกับเราก่อนได้ที่
>> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<


บทความแนะนำ

swiper-arrow-prev
swiper-arrow-next
ขอสินเชื่อ จัดเลย!
กลับสู่ด้านบน