สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า (EV) เราจะพาคุณไปส่องราคากันที่งาน Motor Expo 2022

VOLT รุ่น FOR-TWO และ FOR-FOUR ราคา 325,000-415,000 บาท

เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เหมาะกับชีวิตในเมืองโดย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถ SUV มัลติแบรนด์แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่าย แบรนด์ DSFK หรือ DONGFENG ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของจีน แต่ผู้เดียวในประเทศไทย โดย Volt จำหน่าย 2 รุ่น คือ VOLT FOR-TWO และ VOLT FOR-FOUR  ส่วนการชาร์จกระแสไฟฟ้าจะเป็นแบบ Normal Charge เท่านั้น เมื่อชาร์จเต็มสามารถขับได้ไกล 200 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรุ่น 5 ประตู ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 34 KW มีพละกำลัง 46 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่น 3 ประตู ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 KW พละกำลัง 40 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม ฟอสเฟต ขนาด 16.5 kWh (สำหรับ 5 ประตู) และ 11.8 kWh (สำหรับ 3 ประตู) ส่วนโปรโมชั่นสำหรับผู้จองจะได้รับข้อเสนอ PREMIUM DEAL ของรถทั้งสองรุ่น

NETA รุ่น V ราคา 549,000 บาท 

สำหรับแบรนด์นี้คนให้ความสนใจเนื่องจากราคาอันน่าดึงดูดใจ โดย NETA V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดย NETA V จะมากับการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก โลมา  หรือ Dolphin Streamline ทำให้มีความโฉบเฉี่ยวพร้อมลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี ส่วนขุมพลังจะมากับสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 38.5 kWh ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM โดยภายในงาน Motor Expo 2022 จะมากับโปรโมชั่น เพียงจองรถภายในงานรับฟรี JOOX VIP Code ให้คุณฟังเพลงได้แบบไม่มีโฆษณาคั่น พร้อมเพลงพิเศษอีกมากมาย นาน 3 เดือน นอกจากนี้ภายในงานยังนำ NETA U PRO, NETA S และ NETA KID มาโชว์ด้วย

MINE รุ่น MT30 ราคา 748,500-766,500 บาท

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% โดยส่ง MINE Mobility บริษัทในกลุ่มฯ ที่ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า MINE MT30 รถกระบะไฟฟ้าสัญชาติไทย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำรถไปใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ ทั้งด้านโลจิสติกส์ ด้วยการดีไซน์เป็น Shutter Van หรือ Mobile Office หรือสามารถดัดแปลงเป็น Food Truck ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ด้วย การทำเป็น Campervan โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติเด่น คือ ระบบชาร์จเร็วพิเศษ DC Ultra-fast charge Max. 70 kW, ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion (NMC) ความจุ 30 kWh ผ่านมาตรฐานทดสอบความปลอดภัย UN R100 และมาตรฐานกันน้ำ IP67, สามารถบรรทุกหนักได้ถึง 1 ตัน ด้วยพื้นที่กระบะบรรทุกขนาดใหญ่พิเศษ พื้นเรียบเปิดได้ 3 ด้าน ยาว 2.5 เมตร ยาวกว่ากระบะตอนเดียวทั่วไป 18 ซม. ทำให้วางไม้กระดานได้เต็มแผ่น และ ใต้ท้องรถช่วงแบตเตอรี่สูง 360 มม. จึงมั่นใจเมื่อต้องขับผ่านที่ที่น้ำท่วมสูง ในส่วนของศูนย์บริการนั้น ทาง MINE ได้จับมือกับ Cockpit เปิดตัวศูนย์บริการ ที่จะทำให้สามารถเข้ารับบริการบำรุงรักษาได้อย่างสะดวก ด้วยศูนย์บริการชั้นนำที่มีจุดบริการมากกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ

MG รุ่น 4 Electric ราคา 869,000-969,000 บาท 

สำหรับแบรนด์ MG เป็นแบรนด์ต้นๆ ที่หันมาลุยเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรถคันล่าสุดของแบรนด์นี้ก็คือ MG 4 Electric รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ ICON นิยามของการเป็นต้นแบบ และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่พัฒนาขึ้นเพื่อยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ ไปจนถึงความสามารถในการรองรับแบตเตอรี่ ได้หลากหลายความจุ และถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ และยังมากับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh และช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS โดย MG 4 Electric จะมี 2 รุ่นย่อยให้เลือกคือรุ่น D และรุ่น X สำหรับผู้ที่สนใจรุ่นนี้จะมากับโปรโมชั่น 

• ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

• ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด

• ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER

• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี 

• พิเศษ เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) 

โดยเงื่อนไขทั้งหมดสำหรับลูกค้าที่จองภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565  และรับรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีที่ได้รับสิทธิ์การจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เท่านั้น 

BYD รุ่น Atto 3 ราคา 1,099,900-1,199,900 บาท

เป็นแบรนด์น้องใหม่มาแรงไม่เบาสำหรับ BYD ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท เร–เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) โดยทันทีที่เปิดตัว Atto 3 ก็กวาดยอดจองไปกว่า 4,615 คัน ในสัปดาห์แรก เรียกว่ามีคนให้ควมสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเป็นรุ่น Extend Range และได้เปิดเพิ่มรุ่นย่อย Standard Range เป็นทางเลือกเพิ่มให้กับลูกค้า (ด้วยราคาที่ถูกลง 100,000 บาท) โดยรุ่นนี้จะมีอุปกรณ์เหมือนรุ่น Extend Range แต่จะต่างกันตรงที่ขนาดของแบตเตอรี่โดยรุ่น Standard Range มีแบตเตอรี่ขนาด 49.92 kWh ส่วน Extend Range มีแบตเตอรี่ขนาด 60.48 kWh โดย Atto 30 จะมาพร้อมโปรโมชั่น Rêver Care มูลค่า 180,000 บาท (ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี, โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้ง, สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า V to L, สายชาร์จเคลื่อนที่ Portable Charger, ผ้ายางเข้ารูป กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มหน้าจอ, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 8 ปีเต็ม, รับประกันตัวรถ (Warranty) 8 ปี หรือ 160,000 กม., รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม., บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กม. และ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.68% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน)

นอกจากนี้ภายในงานMotor Expo 2022 ทาง Rêver Automotive ยังได้นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ทั้ง Dolphin, Han EV, Seal และ Tang EV มาจัดแสดงให้ชมกันอีกด้วย ถ้า BYD คือแบรนด์ที่คุณกำลังตัดสินใจก็ไม่ควนพลาดไปชม

TOYOTA รุ่น bZ4X ราคา 1,836,00 บาท

สำหรับแบรนด์เจ้ารถยนต์เจ้าตลาดอย่าง Toyota ในที่สุดก็ส่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกในตระกูล bZ (Beyond Zero) ซึ่งเป็นรถ Crossover SUV พลังงานไฟฟ้าคันแรกจาทางแบรนด์นี้ โดย bZ4X จะมากับขุมพลังที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จากชุดมอเตอร์อิสระ 2 ชุด ที่ให้การตอบสนองและเร่งได้ดั่งใจตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า โดยกำลังจากมอเตอร์จะเป็น 80 กิโลวัตต์ ทั้งหน้าและหลัง ทำให้ได้กำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ หรือ 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 337 นิวตันเมตร ทำให้ได้อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 6.9 วินาที ด้วยระบบบช่วงล่างที่ออกแบบมาอย่างลงตัวทำให้ได้ความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ก็สามารถยึดเกเาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังมีการขับขี่แบบ X-Mode ที่จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพ และยังมีระบบ Regenerative Braking Mode ที่จะช่วยนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาทุกครั้งที่ยกคันเร่ง ในส่วนของแบตเตอรี่ผ่านการทดสอบหลายรูปแบบ ที่สำคัญยังได้รับการปกป้องภายใต้โครงสร้างตัวรถที่ออกแบบมาอย่างดี พร้อมแผ่นรองรับกันกระแทกที่มีน็อตยึดเพิ่มความแข็งแรงมากถึง 56 จุด และฉนวนหุ้มระบบไฟฟ้าแรงดันสูงกันน้ำถึง 3 ชั้น และระบบล็อคที่ข้อต่อสายไฟ 2 ชั้น ป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้าถึงระบบไฟฟ้าแรงดันสูงได้ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

BMW รุ่น i7 ราคา 7,599,000-8,599,000 บาท

สำหรับแบรนด์ BMW รถยนต์ไฟฟ้าคงไม่มีคันไหนจะน่าสนใจไปกว่า i7 รถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบรถซีดานพรีเมียม ทั้งยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ผสานความหรูหราสง่างาม และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร โดย i7 จะมากับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ให้กำลังรวม 544 แรงม้า กับแรงบิด 745 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 เหมือนอย่างที่เคยอยู่ใน BMW iX ส่วนแบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ติดตั้งด้านล่างตัวถัง มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.7 วินาที กับความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะมี 3 รุ่นให้เลือก ประกอบด้วย i7 xDrive60 M Sport (First Edition), i7 xDrive60 M Sport และ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ให้เลือกตามความต้องการ (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

Mercedes-EQ รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium ราคา 7,900,000 บาท

แบรนด์ Mercedes-EQ เป็นซัพแบรนด์ของ Mercedes-Benz โดยภายในงานนี้จะนำ EQS 500 4MATIC AMG Premium ยานยนต์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากไลน์การผลิตภายในประเทศไทย โดยใช้แพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด โดยมาพร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง

สำหรับผู้ที่สนใจอยากออกรถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถเช็กวงเงินเพื่อวางแผนการเงินได้ก่อน ที่ >> กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ขอประเมินได้ก่อนโดยไม่ต้องส่งเอกสาร คลิกที่นี่ <<